Leadership

7 ความลับสร้าง Employee-Focused Organizations แบบ Josh Bersin

7 หลักการสำคัญจาก Josh Bersin ในการสร้างองค์กรที่น่าดึงดูดใจ ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาพนักงาน พลวัตของทีม และการเติบโตขององค์กร เรียนรู้วิธีการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กรของคุณผ่านกลยุทธ์ที่ปฏิบัติได้จริงและตัวอย่างจากองค์กรชั้นนำ

October 27, 2024
·
0
mins
Maytwin Pitipornvivat (Mum+)
เมธวิน ปิติพรวิวัฒน์
 7 ความลับสร้าง Employee-Focused Organizations แบบ Josh Bersin

7 ความลับสร้าง Employee-Focused Organizations แบบ Josh Bersin

ในยุคที่การทำงานเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การสร้างองค์กรที่มุ่งเน้นพนักงานเป็นศูนย์กลางกลายเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ Josh Bersin ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาองค์กรระดับโลก ได้เผยแนวคิด 7 ประการที่จะช่วยให้องค์กรของคุณก้าวสู่การเป็น "Irresistible Organization" หรือองค์กรที่น่าดึงดูดใจสำหรับพนักงาน

Employee-Focused Organizations แบบ Josh Bersin

1. Teams, Not Hierarchy: ทลายลำดับขั้น สร้างพลังทีม

การเปลี่ยนจากโครงสร้างแบบลำดับขั้นสู่การทำงานเป็นทีมที่มีความคล่องตัวเป็นสิ่งสำคัญในยุคปัจจุบัน Josh Bersin กล่าวว่า "ในโลกที่ต้องการความเร็วและนวัตกรรม โครงสร้างแบบเดิมๆ กลับกลายเป็นอุปสรรค"

การสร้าง Agile Teams ที่มีประสิทธิภาพ

  • เน้นทีมขนาดเล็ก 4-5 คนเพื่อความคล่องตัวสูงสุด
  • ให้อิสระในการตัดสินใจและความรับผิดชอบแก่ทีม
  • สร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
  • ส่งเสริมการสื่อสารแบบเปิดและการแบ่งปันความรู้

กรณีศึกษา: การปรับโครงสร้างองค์กรของ ING Bank

ING Bank ได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรจากแบบลำดับขั้นมาเป็นแบบ Agile Teams โดยแบ่งเป็นทีมเล็กๆ หรือ "squads" ที่มีความคล่องตัวสูง แต่ละทีมมีเป้าหมายชัดเจนและมีอิสระในการทำงาน ผลลัพธ์คือ:

  • การตัดสินใจเร็วขึ้น 30%
  • ความพึงพอใจของพนักงานเพิ่มขึ้น 20%
  • ประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้น 25%

2. Work, Not Jobs: มุ่งเน้นผลลัพธ์แทนตำแหน่ง

"เราต้องมองว่างานคือสิ่งที่ต้องทำ ไม่ใช่ตำแหน่งที่ต้องครอง" การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เกิดความยืดหยุ่นและโอกาสในการพัฒนาทักษะใหม่ๆ

การพัฒนา Career Path แนวใหม่

  • เน้นการพัฒนาทักษะมากกว่าการเลื่อนตำแหน่ง
  • สร้างโอกาสการเรียนรู้ผ่านโปรเจคต่างๆ
  • ใช้เทคโนโลยีสนับสนุนการพัฒนา
  • สร้างระบบ internal mobility ที่มีประสิทธิภาพ

กรณีศึกษา: Unilever's Future of Work

Unilever ได้พัฒนาระบบ "Future Fit" ที่ช่วยให้พนักงานสามารถ:

  • ประเมินทักษะปัจจุบันของตนเอง
  • เห็นทักษะที่จำเป็นในอนาคต
  • วางแผนพัฒนาตนเองได้อย่างเหมาะสม
  • เข้าถึงโอกาสการเรียนรู้ที่หลากหลาย

3. Coach, Not Boss: ผู้นำต้องเป็นโค้ช

ผู้นำต้องปรับบทบาทจากการสั่งการเป็นการโค้ช "การเป็นผู้นำที่ดีไม่ได้วัดจากการควบคุม แต่วัดจากการพัฒนาทีมให้เติบโต"

บทบาทของ Modern Leader

  • เป็นที่ปรึกษาและพี่เลี้ยง
  • สร้างแรงบันดาลใจและวิสัยทัศน์
  • พัฒนาทักษะการโค้ชและการให้ feedback
  • สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้

กรณีศึกษา: Microsoft's Leadership Transformation

Microsoft ภายใต้การนำของ Satya Nadella ได้เปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรจาก "know-it-all" เป็น "learn-it-all" โดย:

  • ปรับเปลี่ยนระบบการประเมินผล
  • พัฒนาทักษะการโค้ชให้ผู้นำ
  • สร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ทั่วทั้งองค์กร

4. Culture, Not Rules: วัฒนธรรมสำคัญกว่ากฎระเบียบ

"วัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งสำคัญกว่ากฎระเบียบที่เข้มงวด" องค์กรต้องสร้างวัฒนธรรมที่เน้นผลลัพธ์และการพัฒนา

การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็ง

  • เน้นความไว้วางใจและการให้อิสระ
  • สร้าง engagement ผ่านการมีส่วนร่วม
  • พัฒนา creative thinking และนวัตกรรม
  • สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้

กรณีศึกษา: Netflix's Culture Deck

Netflix ได้สร้างปรากฏการณ์ด้านวัฒนธรรมองค์กรด้วยหลักการ:

  • Freedom & Responsibility
  • Context, Not Control
  • Highly Aligned, Loosely Coupled
  • Pay Top of Market

5. Growth, Not Promotion: การเติบโตสำคัญกว่าตำแหน่ง

"การเติบโตไม่ได้หมายถึงการเลื่อนตำแหน่งเท่านั้น แต่รวมถึงการพัฒนาทักษะและประสบการณ์"

แนวทางการพัฒนาบุคลากร

  • สร้างโอกาสการเรียนรู้หลากหลายรูปแบบ
  • พัฒนา learning culture ในองค์กร
  • ใช้เทคโนโลยีสนับสนุนการเรียนรู้
  • สร้างเส้นทางการพัฒนาที่ยืดหยุ่น

กรณีศึกษา: Google's Growth Environment

Google สร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการเติบโตผ่าน:

  • 20% Time Project
  • Internal Mobility Program
  • Peer-to-Peer Learning
  • Innovation Labs

6. Purpose, Not Profits: จุดมุ่งหมายสำคัญกว่ากำไร

"องค์กรที่มีเป้าหมายชัดเจนจะสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานมากกว่าการมุ่งเน้นกำไรเพียงอย่างเดียว"

การสร้าง Meaningful Work

  • เชื่อมโยงงานกับเป้าหมายองค์กร
  • สร้าง impact ต่อสังคม
  • พัฒนา company vision ที่สร้างแรงบันดาลใจ
  • สร้างความภาคภูมิใจในงาน

กรณีศึกษา: Patagonia's Mission

Patagonia ยึดมั่นในพันธกิจ "Build the best product, cause no unnecessary harm, use business to inspire and implement solutions to the environmental crisis" โดย:

  • ใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  • สนับสนุนการอนุรักษ์ธรรมชาติ
  • สร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและยั่งยืน

7. Employee Experience, Not Output: ประสบการณ์สำคัญกว่าผลผลิต

การออกแบบประสบการณ์การทำงานที่ดีจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีโดยธรรมชาติ

การพัฒนา Employee Experience

  • ใช้ design thinking ในการพัฒนา
  • สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงาน
  • วัดผลความสำเร็จผ่านความพึงพอใจของพนักงาน
  • พัฒนาระบบสนับสนุนที่มีประสิทธิภาพ

กรณีศึกษา: Airbnb's Employee Experience

Airbnb ปรับเปลี่ยนตำแหน่ง Chief Human Resources Officer เป็น Chief Employee Experience Officer โดยมุ่งเน้น:

  • Workplace Design
  • Employee Journey Mapping
  • Employee Wellbeing
  • Work-Life Integration

สรุป

การสร้างองค์กรแบบ Employee-Focused ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นสิ่งจำเป็นในยุคปัจจุบัน Josh Bersin พบว่า "มีเพียง 10% ขององค์กรทั่วโลกที่สามารถทำได้สำเร็จ" แต่องค์กรที่ทำสำเร็จจะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าทั้งในด้านผลประกอบการและความยั่งยืน การนำหลักการทั้ง 7 ประการไปปรับใช้อย่างเหมาะสมกับบริบทขององค์กร จะช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและความยั่งยืนในระยะยาว

Reference : Irresistible: The Seven Secrets of the World's Most Enduring, Employee-Focused Organizations by Josh Bersin