Advocacy

แนะนำ 3 วิธีพัฒนา Soft Skill ฉบับทำตามง่าย ปูทางสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน

เรียนรู้ 3 วิธีพัฒนา Soft Skill ทักษะและกรอบแนวคิดการทำงานยุคใหม่ปูทางไปสู่ความสำเร็จยั่งยืน มาดูกันว่า Soft Skill คืออะไร มีอะไรบ้าง และนำไปใช้ได้อย่างไร

August 20, 2024
·
0
mins
Maytwin Pitipornvivat (Mum+)
เมธวิน ปิติพรวิวัฒน์
แนะนำ 3 วิธีพัฒนา Soft Skill ฉบับทำตามง่าย ปูทางสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน

แนะนำ 3 วิธีพัฒนา Soft Skill ฉบับทำตามง่าย ปูทางสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน

ในมุมของโลกการทำงานแล้ว หลายๆ คนมักมีความเชื่อว่า การยิ่งมีความเชี่ยวชาญด้าน “ทักษะเฉพาะทางเทคนิค” หรือ “Hard Skill” มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งส่งผลให้ประสบความสำเร็จในการทำงานมากยิ่งขึ้นเท่านั้น

แน่นอนว่าความเชื่อดังกล่าวนี้ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่หากลองมองลึกลงไปอีกนิด ก็จะพบว่า การจะนำ Hard Skill ออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้น จำเป็นต้องอาศัยทักษะสำคัญอย่าง “Soft Skill” เข้ามาร่วมด้วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและ Productivity ในการทำงานมากขึ้น

แล้ว Soft Skill ที่ว่านี้ คืออะไร มีอะไรบ้าง และจะมีวิธีพัฒนา Soft Skill อย่างไร ให้สอดคล้องไปกับ Hard Skill ทั้งในที่ทำงานและในชีวิตประจำวัน ในบทความนี้ BASE Playhouse มีคำตอบให้คุณ

Soft Skills คืออะไร?

เพราะความเข้าใจถือเป็นพื้นฐานสำคัญที่นำไปสู่การฝึกฝนและปรับใช้ที่ถูกต้อง ดังนั้น ก่อนที่จะไปดูถึงวิธีพัฒนา Soft Skill รวมถึงการฝึกฝนและปรับใช้ให้เข้ากับการทำงาน ไปจนถึงแง่มุมอื่นของชีวิต ลองมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า “Soft Skills คืออะไร”

โดย “Soft Skill” หรือ “ซอฟต์สกิล” คือ ทักษะสำคัญที่สร้างกรอบความคิด (Mindset) ขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทักษะทางอารมณ์ ทักษะทางสังคม ทักษะการปรับตัว ทักษะด้านการคิดวิเคราะห์เพื่อรับมือกับสถานการณ์ ไปจนถึงทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์

Soft Skills ต่างจาก Hard Skills อย่างไร?

เชื่อว่าใครหลายคนคงต้องมีความสงสัยเหมือนกันว่า ความแตกต่างระหว่าง Hard Skills และ Soft Skills คืออะไร

“Hard Skills” คือ ทักษะเฉพาะ หรือ ทักษะเทคนิคที่จำเป็นต่ออาชีพนั้นๆ ซึ่งได้มาจากการเรียนรู้ทางทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง หรือ ฝึกฝนทักษะจนสามารถใช้งานได้จริง โดยส่วนมากแล้ว ทักษะ Hard Skills นี้สามารถประเมินผลได้และมีตัวชี้วัดที่ชัดเจน

เช่น อาชีพนักบัญชีจำเป็นต้องมี Hard Skills ที่เกี่ยวข้องกับการทำบัญชี ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน การบันทึกข้อมูลทางการเงิน การรวบรวมเอกสารบันทึกบัญชี การดูแลระบบบัญชี การจัดทำรายการทางการเงิน ไปจนถึงทักษะด้านกฎหมายการทำบัญชีที่ถูกต้อง

จะเห็นได้ว่า ทักษะ Hard Skills สามารถเรียนรู้ ฝึกฝน ตลอดจนมีกฎและตัวชี้วัดที่ชัดเจน ซึ่งแต่ละสายอาชีพเองก็มีทักษะ Hard Skills ที่แตกต่างกัน

ในขณะที่ “Soft Skill” คือ ทักษะที่พัฒนาขึ้นมาจากประสบการณ์และการลงมือทำ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในทักษะเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล ซึ่งแม้จะไม่ใช่ทักษะที่สามารถวัดและประเมินผลออกมาเป็นตัวเลข หรือ มีตัวชี้วัดที่แน่นอน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า Soft Skill ถือเป็นทักษะสำคัญที่จำเป็นต่อทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน

ลองคิดดูง่ายๆ ว่า หากเราเป็นคนมีความสามารถในงานที่ได้รับมอบหมายจริง แต่ดันไม่มีทักษะทางอารมณ์ หรือ การคิดวิเคราะห์เพื่อรับมือกับสถานการณ์ นอกจากจะทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ยากแล้ว ตัวเราก็อาจรับมือกับปัญหาที่นอกเหนือจากความสามารถที่มีอยู่ไม่ได้ จนส่งผลต่อการทำงานในส่วนอื่นๆ ขององค์กรได้

เช่นเดียวกับการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น หากตัวเราไม่มี Soft Skill ที่ช่วยกำหนดกรอบความคิด (Mindset) ต่อการตอบสนองกับสิ่งรอบตัวอย่างเหมาะสมและสร้างสรรค์ ก็อาจส่งผลให้ตัวเราไม่สามารถเข้ากับผู้อื่น หรือ เป็นส่วนหนึ่งของสังคมได้เช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ การรู้จักวิธีพัฒนา Soft Skill จึงเป็นทักษะสำคัญที่ช่วยเสริม Hard Skills ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังช่วยผลักดันความสำเร็จในแง่มุมอื่นๆ ของชีวิตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวที่เป็นสุขได้มากขึ้น

Soft Skills ที่สำคัญในยุคดิจิทัล มีอะไรบ้าง?

ในยุคดิจิทัลที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง และการเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ๆ  Soft Skills ยิ่งกลายเป็นสิ่งสำคัญที่คนทำงานควรเสริมสร้างเอาไว้ เพื่อให้มั่นใจว่า ทีมของเราจะก้าวทันโลกและพร้อมรับมือความผันผวนในโลกดิจิตัลที่หมุนไปอย่างรวดเร็วได้

โดยทั่วไปแล้ว Soft Skills ที่จำเป็นสำหรับยุคดิจิทัลจะมีด้วยกัน 5 สกิลหลักด้วยกัน ซึ่งเป็นสกิลสำคัญที่นำไปต่อยอดสู่สกิลอื่นๆ ได้ ดังนี้

1. Flexibility and Resilience

ในสมัยก่อน การเปลี่ยนแปลงใหญ่จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์หรือนวัตกรรมใหม่ๆเข้ามาทดแทนและปรับปรุงการทำงานแบบเดิมๆ เช่น การมาของสมาร์ตโฟน หรือ Digital Marketing

แต่ในปัจจุบันนี้ การเปลี่ยนแปลงนั้นสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและทุกเวลา หากเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ คงจะหนีไม่พ้นการมาถึงของเทคโนโลยี AI ที่สามารถเข้ามาแทนที่ Hard Skill ของมนุษย์ในด้านต่าง ๆ เช่น การจัดการข้อมูล การเขียนโปรแกรม หรือการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ 

ดังนั้น เพื่อปรับตัวให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วกว่าในสมัยก่อน ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภค Soft Skill อย่าง Flexibility and Resilience หรือ “ทักษะในการปรับตัวและฟื้นตัว” จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกองค์กรไม่ควรมองข้าม

การฝึกทักษะ Flexibility and Resilience ไม่เพียงแต่จะช่วยให้รับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับทัศนคติของเราให้ยืดหยุ่น พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และสามารถรับมือการการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วได้อีกด้วย

2. Creativity and Positive Attitude

“ทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์และการสร้างทัศนคติเชิงบวก” ไม่ได้เป็น Soft Skill สำหรับงานสร้างสรรค์ หรือ สายงาน Creative เท่านั้น แต่ยังเป็นทักษะที่จำเป็นต่อทุกสายงาน

ทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์ ไม่ได้เป็นการคิดงานศิลปะ แต่จะเป็นทักษะที่ช่วยมองหาไอเดียใหม่ๆ เพื่อตอบสนองกับสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป เช่น การเปิดใจมองหาวิธีรับมือกับปัญหาแบบใหม่ ไปจนถึงการมองหาแนวทางพัฒนาสิ่งที่มีอยู่เดิมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

หากยิ่งรวมกับทักษะด้านทัศนคติเชิงบวก ที่จะช่วยปรับมุมมองความคิดให้มองสถานการณ์ต่างๆ อย่างเป็นกลาง และ เป็นการเรียนรู้มากยิ่งขึ้น ก็จะยิ่งส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงาน รวมถึงความรู้สึกในการทำงานและการใช้ชีวิตได้

เพราะลองคิดดูง่ายๆ ว่า หากตัวเราจมปลักอยู่กับปัญหา ไม่ยอมปรับเปลี่ยนวิธีการรับมือกับสถานการณ์ใหม่ นอกจากจะบั่นทอนตัวเอง ตลอดจนมองไม่เห็นถึงวิธีการแก้ปัญหาแล้ว ยังส่งผลเสียกับเพื่อนร่วมงาน รวมถึงประสิทธิภาพของงานตัวเองด้วยเช่นกัน

3. Analytic and Critical Thinking

“ทักษะการคิดวิเคราะห์” ที่มีประสิทธิภาพ หรือ Analytic and Critical Thinking ถือเป็น Soft Skill สำคัญที่นอกจากจะช่วยให้สามารถคิด วิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์รอบข้างได้อย่างเหมาะสมแล้ว ยังมีส่วนช่วยเพิ่มความรอบคอบในการทำงาน ตลอดจนช่วยส่งเสริมการใช้ Hard Skill ได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้ Analytic and Critical Thinking ยังเป็น Soft Skill ที่กระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงช่วยทำให้มองเห็นแนวทางการทำงานและแก้ปัญหาใหม่ๆ ที่อาจนำไปสู่ความสำเร็จในการทำงานได้เช่นกัน

4. Communication

ลำพังแค่พัฒนาตัวเองเพียงอย่างเดียวอาจยังไม่พอที่จะสร้างความสำเร็จที่ยั่งยืน โดยเฉพาะกับงานที่ต้องทำกันเป็นทีม ด้วยเหตุนี้ “ทักษะด้านการสื่อสาร” หรือ Communication จึงเป็นหนึ่งในสกิลในยุคดิจิทัลที่ต้องให้ความสำคัญเช่นกัน

โดยทักษะการสื่อสารนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่ทักษะในการพูดและสื่อสารที่ชัดเจนและเหมาะสมเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงทักษะการฟังอย่างตั้งใจ หรือ Active Listening ที่ ช่วยให้สามารถฟังสารได้เข้าใจ เป็นกลาง และไม่มีอคติจนทำให้เกิดปัญหาในการสื่อสารต่อ

ที่สำคัญ ทักษะด้านการสื่อสารนี้ ยังรวมไปจนถึงการพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งแบบเห็นหน้า ข้อความ ไปจนถึงการเขียนงานด้วย ซึ่งการฝึกทักษะนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยทำให้งานราบรื่นเท่านั้น แต่ยังช่วยลดข้อขัดแย้งในการทำงานได้อีกด้วย

5. Curiosity for Learning

การปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงจำเป็นต้องอาศัย “ทักษะการใฝ่รู้” หรือ Curiosity for Learning ทั้งในเรื่องการอัปสกิลใหม่ๆ ที่ช่วยเสริมสกิลเดิมที่มีอยู่ ไปจนถึงการเรียนรู้ทักษะเดิมในแง่มุมใหม่ เพื่อช่วยให้เกิดการพัฒนาอยู่เสมอ ทำให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร้ขีดจำกัด

เช่น ในสมัยก่อนใครๆ ก็มองว่าเทคโนโลยี AI เป็นเรื่องที่ยากจะเป็นไปได้ แต่ในสมัยนี้ เทคโนโลยี AI กลับเป็นส่วนสำคัญต่อการทำงาน ทั้งในเรื่องของการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดข้อผิดพลาด ไปจนถึงช่วยมองหาโอกาสในการทำงานใหม่ๆ ซึ่งหากไม่เรียนรู้สกิลในการใช้ AI เป็นเครื่องมือช่วยทำงานเลย ก็อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานในอนาคตได้เช่นกัน

3 วิธีพัฒนา Soft Skills ฉบับฝึกง่ายๆ ด้วยตัวเอง

จะเห็นได้ว่า Soft Skills ถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายและรวดเร็วกว่าสมัยก่อนมาก 

อย่างไรก็ดี การฝึกฝน Soft Skills นั้นกลับไม่ใช่เรื่องยากเหมือนที่หลายคนเข้าใจ แต่สามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ ด้วย 3 วิธีพัฒนา Soft Skills ดังนี้

1. เปิดใจรับความเปลี่ยนแปลง

หัวใจสำคัญของการเรียนรู้ คือ การเปิดใจ ซึ่งสำหรับการพัฒนา Soft Skill นั้นต้องเริ่มต้นจากการยอมรับและเปิดใจให้กับการเปลี่ยนแปลงที่มาถึงแล้ว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ทำได้ยากสำหรับใครหลายคน เพราะการยอมรับการเปลี่ยนแปลงและเรียนรู้ถือเป็นการก้าวออกมาจาก Comfort Zone หรือ Safe Zone ที่สามารถสร้างความรู้สึกไม่ปลอดภัยได้

ดังนั้น ก่อนที่จะพัฒนา Soft Skill ใดๆ ขอแนะนำให้ลองเปิดใจกับการเปลี่ยนแปลงรอบด้าน จากนั้นจึงเริ่มพิจารณาการเปลี่ยนแปลงรอบตัวอย่างใจเย็น เพื่อให้มองเห็นถึงแนวทางและเป้าหมายของการเรียนรู้และปรับตัวนี้

2. มองหาจุดเด่นและจุดที่ต้องพัฒนาในตัวเอง

เมื่อเปิดใจสู่การเปลี่ยนแปลง ตลอดจนมองเห็นแนวทางและเป้าหมายในการเรียนรู้ของตัวเองแล้ว วิธีพัฒนา Soft Skill ที่มีประสิทธิภาพในลำดับต่อมา คือ การมองหาจุดเด่นและจุดที่ต้องพัฒนาของตัวเอง

ลองใช้เวลาสัก 1 ชั่วโมงกับตัวเอง จากนั้นให้ลิสต์ถึงจุดเด่นในการทำงานของตัวเองและจุดที่ยังต้องพัฒนาให้มากขึ้น สุดท้ายจึงค่อยๆ พิจารณาดูว่า แต่ละจุดเด่นและจุดที่ต้องพัฒนานี้ต้องใช้ Soft Skill ตัวไหนเข้ามาช่วยบ้าง

เช่น หากสื่อสารในที่ทำงานพลาดบ่อยๆ อาจต้องมาดูว่า ตอนนี้ Soft Skill ด้านการสื่อสารของเราเป็นอย่างไร เราฟังสารผิด เราเข้าใจสารพลาด หรือ เราสื่อสารด้วยคำที่ไม่ตรงกับความเข้าใจของผู้อื่น เป็นต้น

3. ตั้งสติ และ ค่อยๆ เรียนรู้อย่างใจเย็น

ทุกการเรียนรู้ ปรับตัว และเปลี่ยนแปลง จำเป็นต้องใช้ “เวลา” ทั้งสิ้น ดังนั้น เมื่อมองเห็นจุดเด่นและเรื่องที่ต้องปรับปรุงของตัวเองแล้ว อย่าลืมให้เวลากับตัวเองในการเรียนรู้และค่อยๆ ปรับตัว เพื่อช่วยให้เกิดการเรียนรู้ที่เหมาะกับตัวเรามากที่สุด

ที่สำคัญ ขอแนะนำว่า อย่านำตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร เพราะแต่ละคนเองก็มีวิธีการและระยะเวลาในการปรับตัวที่ไม่เท่ากัน เพียงแค่โฟกัสกับการเรียนรู้และการพัฒนาของตัวเอง และไม่ลืมที่จะให้กำลังใจตัวเองกับความสำเร็จในทุก ๆ ก้าว ก็พอแล้ว

เมื่ออ่านมาถึงจุดนี้ เชื่อว่าหลายๆ คนคงเริ่มเข้าใจวิธีพัฒนา Soft Skills ของตัวเองมากขึ้นอย่างแน่นอน

สำหรับองค์กรที่เข้าใจถึงระดับการเรียนรู้ที่แตกต่างกันของพนักงาน และต้องการพัฒนา Soft Skills ให้ทีมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น BASE Playhouse พร้อมเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยของคุณ

เข้าถึงวิธีพัฒนา Soft Skills ที่สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร ด้วยการเป็น Learning Design Partner กับ BASE Playhouse และสร้างประสบการณ์เรียนรู้ที่ตอบโจทย์ พร้อมบริการ Customized Learning Outcome ที่สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้ตามโจทย์ขององค์กร โดยมีทีม Learning Designer และ Game Designer คอยให้คำปรึกษาและวางแผนการเรียนการสอนอย่างใกล้ชิด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.baseplayhouse.co/in-house-training  

อ้างอิงข้อมูลจาก