Working with AI

Generative AI สำหรับธุรกิจ - เครื่องมือเพิ่ม Productivity ในองค์กร

Generative AI เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่ม Productivity ในธุรกิจ โดยสร้างสรรค์เนื้อหา ภาพ วิดีโอ และข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ในปี 2024

August 6, 2024
·
0
mins
Peesadech Pechnoi (Mac)
ภีศเดช เพชรน้อย
Generative AI สำหรับธุรกิจ - เครื่องมือเพิ่ม Productivity ในองค์กร

Generative AI สำหรับธุรกิจ - เครื่องมือเพิ่ม Productivity ในองค์กร

🤖 Generative AI คืออะไร ทำไมถึงเป็นเรื่องใหญ่ในปี 2023

ปี 2023 ที่ผ่านมา คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทคโนโลยีที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคงหนีไม่พ้น Generative AI หรือ GenAI ซึ่งเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถสร้างเนื้อหา ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ เสียง หรือวิดีโอ จากคำสั่งของมนุษย์ได้อย่างน่าทึ่ง

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราใช้ ChatGPT ซึ่งเป็น GenAI ที่ฮอตที่สุดตอนนี้ แล้วถามมันว่า "เขียนบทความเกี่ยวกับ 5 เทรนด์ท่องเที่ยวปี 2024 ที่น่าจับตามอง ความยาว 500 คำ" มันก็จะสามารถเขียนบทความที่มีเนื้อหาน่าสนใจ อ่านเข้าใจง่าย และมีความยาวตามที่เรากำหนดได้ในเวลาไม่กี่วินาที เรียกว่าทำงานได้ไวกว่ามนุษย์หลายเท่าตัวเลยทีเดียว

ไม่เพียงแค่ ChatGPT เท่านั้น ยังมี GenAI ตัวอื่นๆ อีกมากมาย เช่น DALL-E ที่สามารถวาดรูปจากคำบรรยาย, Midjourney ที่สร้างภาพอาร์ตสุดอลังการ หรือ Google Gemini คู่แข่งสำคัญของ ChatGPT เป็นต้น ซึ่งแต่ละตัวก็มีความสามารถโดดเด่นแตกต่างกันไป

ด้วยศักยภาพที่สูงลิ่วขนาดนี้ จึงไม่แปลกใจเลยที่ GenAI กลายเป็นที่สนใจของธุรกิจและองค์กรต่างๆ ทั่วโลก เพราะมันสามารถเข้ามาช่วยเพิ่ม productivity ในการทำงานได้มหาศาล ไม่ว่าจะเป็นการเขียนอีเมล รายงาน บทความ สคริปต์ หรือแม้แต่เขียนโค้ดโปรแกรม ก็ทำได้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

"By 2025, generative AI will account for 10% of all data produced, up from less than 1% today." - Gartner

ตัวอย่างการใช้ GenAI ในองค์กร

เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้มีโอกาสไปร่วมงานสัมมนาของบริษัทแห่งหนึ่งที่นำ GenAI มาใช้ในองค์กรอย่างจริงจัง เขาเล่าว่าพนักงานทุกคนสามารถใช้ ChatGPT เพื่อช่วยในงานต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนอีเมลตอบลูกค้า สรุปรายงานการประชุม หรือค้นหาข้อมูลต่างๆ ซึ่งช่วยประหยัดเวลาไปได้เยอะมาก

ยิ่งไปกว่านั้น ทีมการตลาดของเขายังใช้ GenAI ในการสร้างคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย เช่น เขียนแคปชั่นใต้รูป คิดไอเดียโพสต์ใหม่ๆ หรือแม้แต่ออกแบบรูปภาพประกอบ ซึ่งไม่เพียงแค่ช่วยให้ทำงานได้ไวขึ้น แต่ยังได้ผลลัพธ์ที่ดีและน่าสนใจกว่าเดิมอีกด้วย

💼 GenAI เข้ามาเปลี่ยนแปลงการทำงานอย่างไรบ้าง

นอกจากจะช่วยเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพในการทำงานแล้ว GenAI ยังสามารถเข้ามาปฏิวัติรูปแบบการทำงานแบบเดิมๆ ได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น

1. ลดงานที่ซ้ำซากน่าเบื่อ เพิ่มงานที่ท้าทายและสร้างสรรค์

เมื่อมี GenAI คอยช่วยจัดการงานประจำที่มีขั้นตอนชัดเจน เช่น เขียนรายงาน ส่งอีเมล หรือรวบรวมข้อมูล พนักงานก็จะมีเวลามากขึ้นในการคิดงานเชิงกลยุทธ์ วางแผน และแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ซึ่งเป็นงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และไหวพริบสูง

2. เปลี่ยนจาก "ลูกจ้าง" เป็น "ผู้จัดการ AI"

เมื่อ GenAI สามารถรับช่วงต่องานจำนวนมากได้ บทบาทของพนักงานจึงเปลี่ยนจากผู้ลงมือทำเองทั้งหมด กลายเป็นผู้วางกรอบงาน กำหนดทิศทาง และตรวจสอบผลลัพธ์จาก AI แทน ซึ่งต้องอาศัยทักษะด้านการจัดการ การสื่อสาร และการคิดเชิงวิพากษ์มากขึ้น

3. สร้างอาชีพใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ AI

ในอนาคตอันใกล้ เราอาจได้เห็นอาชีพใหม่ๆ ผุดขึ้นมามากมาย อย่างเช่น AI Prompt Engineer ที่คอยออกแบบคำสั่งให้ AI ทำงานตามที่ต้องการ, AI Output Reviewer ที่ตรวจทานและปรับแต่งผลงานของ AI ให้สมบูรณ์แบบ หรือ AI Ethicist ที่ดูแลไม่ให้การใช้งาน AI ส่งผลเสียต่อสังคม เป็นต้น

"According to a McKinsey Global Survey, 63% of respondents say their organizations have already adopted or plan to adopt generative AI in the next 12 months."

🚀 แนวทางการนำ GenAI มาใช้ในองค์กรอย่างได้ผล

แม้ GenAI จะมีประโยชน์มหาศาล แต่การนำมันมาใช้งานจริงให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ผมมีข้อแนะนำดังนี้ครับ

1. เลือกใช้ให้เหมาะกับงาน

GenAI แต่ละตัวมีความถนัดแตกต่างกัน เช่น ChatGPT เก่งเรื่องภาษา DALL-E เก่งเรื่องภาพ เราควรเลือกใช้ให้ตรงกับงานที่ต้องการ และอย่าคาดหวังว่ามันจะทำได้ทุกอย่าง 100% ในทันที ต้องค่อยๆ ทดลองไปพร้อมๆ กับปรับปรุงวิธีใช้งานเรื่อยๆ

2. สอนให้พนักงานใช้เป็น

สิ่งสำคัญคือต้องมีการ train พนักงานให้รู้จักวิธีใช้ GenAI อย่างถูกต้อง ตั้งแต่การเขียน prompt ที่ชัดเจน การ refine ผลลัพธ์ที่ได้ และการตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้จริง ไม่ใช่ปล่อยให้ใช้ไปโดยไม่มีหลักการ

3. วางระบบและนโยบายที่ดี

ต้องมีการกำหนดกรอบการใช้งาน GenAI ในองค์กรให้ชัดเจน ว่าจะนำมาใช้กับงานประเภทไหน มีขั้นตอนอย่างไร และมีการจัดเก็บ log การใช้งานเพื่อย้อนกลับมาดูได้ รวมถึงต้องคำนึงถึงประเด็นด้านลิขสิทธิ์ ความเป็นส่วนตัว และจริยธรรมด้วย

4. ใช้ควบคู่กับมนุษย์

สุดท้ายนี้ สิ่งที่ต้องย้ำคือ GenAI ไม่ได้มาแทนที่มนุษย์ แต่มาเสริมศักยภาพของมนุษย์ต่างหาก ดังนั้นอย่ามองมันเป็นคู่แข่ง แต่ให้มองเป็นหุ้นส่วนที่จะช่วยให้เราทำงานได้ดีขึ้น ส่วนงานไหนที่ต้องอาศัยความเป็นมนุษย์ เช่น การใช้อารมณ์ ความเห็นอกเห็นใจ หรือการตัดสินใจเชิงจริยธรรม ก็ยังคงต้องเป็นหน้าที่ของเราเช่นเดิม

📈 ผลกระทบของ GenAI ต่อ Productivity และเศรษฐกิจ

จากการศึกษาของ McKinsey พบว่า GenAI มีแนวโน้มที่จะเพิ่มผลิตภาพ (productivity) ของแรงงานทั่วโลกได้ถึง 0.6-1.2% ต่อปี ซึ่งนับว่าสูงมากเมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตปกติที่ 0.3-0.4% ต่อปีในช่วงที่ผ่านมาส่วนรายงานจาก PwC ระบุว่า ภายในปี 2030 คาดว่า GenAI จะช่วยเพิ่ม GDP ของโลกได้ถึง 15.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 26% ของ GDP โลกในปัจจุบัน ซึ่งเทียบเท่ากับการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนและอินเดียรวมกันผมเองก็ได้เห็นพลังของ GenAI จากประสบการณ์ตรง เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้ลองใช้ ChatGPT ช่วยเขียน proposal ขายบริการให้ลูกค้า ปกติผมต้องใช้เวลาเตรียมข้อมูลและเขียนหลายชั่วโมง แต่พอใช้ ChatGPT ช่วย ก็ใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมงก็เสร็จ แถมยังได้ proposal ที่ออกมาดีกว่าที่ผมเขียนเองอีก ลูกค้าประทับใจมาก สุดท้ายปิดการขายได้เลย นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนว่า GenAI ช่วยเพิ่ม productivity ได้จริงๆ

🧑‍💼 ผลกระทบต่อแรงงานและทักษะที่ต้องปรับตัว

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบของ GenAI ต่อแรงงานก็เป็นประเด็นที่หลายคนกังวล จากการสำรวจของ World Economic Forum พบว่า ภายในปี 2025 งานกว่า 85 ล้านตำแหน่งทั่วโลกอาจถูกแทนที่ด้วย AI และระบบอัตโนมัติ โดยเฉพาะงานที่เป็นแบบทำซ้ำๆ เช่น งานธุรการ งานบัญชี หรืองานประมวลผลข้อมูลแต่ในขณะเดียวกัน ก็มีงานใหม่ๆ เกิดขึ้นมากถึง 97 ล้านตำแหน่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานที่ต้องใช้ทักษะด้านการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา ความคิดสร้างสรรค์ และการทำงานร่วมกับ AI เช่น นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล, วิศวกร AI, นักออกแบบ UX ที่เข้าใจ AI เป็นต้นดังนั้น สิ่งสำคัญคือทุกคนต้องปรับตัว เรียนรู้ และพัฒนาทักษะใหม่ๆ ให้ทันกับยุค GenAI ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้การใช้เครื่องมือ GenAI, การตั้งคำถามและสั่งงาน AI ให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ, การใช้ความคิดสร้างสรรค์ควบคู่กับ AI และที่สำคัญคือการพัฒนา soft skills อย่างการสื่อสาร การคิดเชิงวิพากษ์ และการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นสิ่งที่ AI ยังทำไม่ได้ดีเท่ามนุษย์

🌍 บทบาทของภาครัฐและความร่วมมือระดับโลก

การกำกับดูแลและนโยบายของภาครัฐ รวมถึงความร่วมมือระหว่างประเทศ จะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมและควบคุมการพัฒนา GenAI ให้เป็นไปในทิศทางที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อสังคมผลสำรวจของ Deloitte พบว่า 78% ของผู้นำต้องการให้รัฐบาลออกกฎระเบียบควบคุม AI มากขึ้น และ 72% เห็นว่ายังขาดความร่วมมือระดับโลกในการพัฒนา AI อย่างรับผิดชอบ ประเด็นสำคัญที่ต้องร่วมมือกันจัดการ ได้แก่:

  • การกำหนดมาตรฐาน จริยธรรม และแนวปฏิบัติในการพัฒนาและใช้งาน AI
  • การป้องกันการนำ AI ไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การสร้างข่าวปลอม, การละเมิดความเป็นส่วนตัว
  • การส่งเสริมการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จาก AI อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
  • การเตรียมความพร้อมด้านการศึกษาและพัฒนาทักษะแรงงานให้สอดคล้องกับยุค AI
  • การสร้างกลไกความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม ในการกำกับดูแล AI

💡 บทสรุป

GenAI เป็นเทคโนโลยีที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อวิถีชีวิตและการทำงานของเรา มันมีศักยภาพมหาศาลในการขับเคลื่อนนวัตกรรม เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแต่ในขณะเดียวกัน ก็มีความเสี่ยงและผลกระทบที่ต้องจัดการอย่างรอบคอบ ทั้งในแง่ของจริยธรรม ความเป็นส่วนตัว ความเหลื่อมล้ำ และการทดแทนแรงงานสิ่งสำคัญคือ ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐในการวางนโยบายและกฎระเบียบที่เหมาะสม, ภาคธุรกิจในการพัฒนาและใช้ GenAI อย่างมีความรับผิดชอบ และภาคการศึกษาในการพัฒนาหลักสูตรและทักษะให้สอดรับกับยุคสมัยที่สำคัญที่สุดคือ ตัวเราทุกคนต้องเปิดใจเรียนรู้ ปรับตัว และใช้ประโยชน์จาก GenAI ให้เกิดคุณค่าสูงสุด ทั้งต่อตนเอง องค์กร และสังคมโดยรวม เพื่อให้เรากับ GenAI สามารถอยู่ร่วมกันและเติบโตไปด้วยกันได้อย่างยั่งยืนครับ

Citations:

  1. Boussour, L. (2024). The productivity potential of GenAI. EY.
  2. Barclays. (2024). AI revolution: productivity boom and beyond. Barclays Research.
  3. Ollie O’Donoghue,Duncan Roberts. (2024). New work, new world with generative AI. Cognizant.
  4. Dutt, D., Ammanath, B., Perricos, C., & Sniderman, B. (2024). Now decides next: Insights from the leading edge of generative AI adoption. Deloitte.