การเปลี่ยนแปลงของ “เทคโนโลยี” ในยุค Digital Disruption ที่ไม่ควรมองข้าม
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในปี 2025 เป็นปีที่ก้าวเข้าสู่ยุคสมัยของ Digital Transformation อย่างเต็มรูปแบบ เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เคยเป็นเรื่องไกลตัวกลับกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่เข้ามามีบทบาทอย่างมากสำหรับการทำงาน หลาย ๆ องค์กรต้องพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่โดยไม่ทันตั้งตัว

การเปลี่ยนแปลงของ “เทคโนโลยี” ในยุค Digital Disruption ที่ไม่ควรมองข้าม
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในปี 2025 เป็นปีที่ก้าวเข้าสู่ยุคสมัยของ Digital Transformation อย่างเต็มรูปแบบ เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เคยเป็นเรื่องไกลตัวกลับกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่เข้ามามีบทบาทอย่างมากสำหรับการทำงาน หลาย ๆ องค์กรต้องพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่โดยไม่ทันตั้งตัว ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ผันเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและดูเหมือนว่าจะไม่มีที่สิ้นสุด องค์กรที่กล้าเผชิญหน้ากับความท้าทาย ไม่ยึดติดกับการทำงานแบบเดิม ๆ และพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เพื่อปรับตัวให้เข้ากับโลกยุคปัจจุบันเท่านั้นที่จะสามารถอยู่รอดในยุคเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล
ดังนั้น บทความในวันนี้ของ BASE Playhouse จะว่าด้วยเรื่อง การเปลี่ยนแปลงของ “เทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล” ที่ไม่ควรมองข้ามในปี 2025 เพราะเราจะพาทุกคนมาสำรวจ 5 เทรนด์ฮิตของเทคโนโลยี มีอะไรบ้าง รับรองได้ว่าถ้าอ่านจบแล้วสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองได้อย่างแน่นอน!
5 เทคโนโลยีที่กำลังมาแรงในยุคธุรกิจดิจิทัล
ในปี 2025 เทคโนโลยีได้ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำงานภายในองค์กร ซึ่งเป็นสุดยอดเครื่องมือที่ช่วยลดความซับซ้อนยุ่งยากของการทำงานลง แต่ผลลัพธ์ของการทำงานกลับมีประสิทธิภาพมากขึ้นเป็นสองเท่าตัว เรียกได้ว่า ช่วยประหยัดเวลา ประหยัดทรัพยากร แต่ได้ผลตอบแทนคุ้มค่าแก่การลงทุน
ในบทความนี้ BASE Playhouse จะพาทุกคนมาจับตาดูว่า เทรนด์ฮิตมาแรงของเทคโนโลยี มีอะไรบ้าง ทุกคนจะได้ไม่พลาดอะไรดี ๆ ไป เตรียมปากกาขึ้นมาจดกันได้เลย
1. เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
เทรนด์ฮิตมาแรงของเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัลอย่างแรก คือ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในพ.ศ.นี้ รับรองว่าพูดไปใคร ๆ ก็รู้จัก เนื่องจากเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำงานของมนุษย์แทบทุกสายงานกันเลยทีเดียว ซึ่งจุดเด่นของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ก็คือ ความสามารถในการประมวลผลจากข้อมูลที่มีจำนวนมากและซับซ้อน รวมถึงตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องการคำสั่งจากมนุษย์ตลอดเวลา ซึ่งเป็นผลมาจากการกระบวนการออกแบบ พัฒนา ฝึกฝนให้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์สามารถจำลองการเรียนรู้ของมนุษย์และเข้าใจภาษาของมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ
การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ไปใช้งานในยุคเทคโนโลยีสามารถทำได้หลากหลายอย่าง เริ่มตั้งแต่สิ่งที่หลาย ๆ คนคุ้นเคยกันดีอย่าง “การบริการลูกค้า” หรือ Customer Service นำมาใช้เป็นแชตบอต (Chatbot) คอยตอบคำถามและข้อสงสัยของลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง หรือนำมาวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าเพื่อนำเสนอ Promotion สุดพิเศษได้ตรงใจ เพิ่มประสบการณ์ดี ๆ ในการใช้บริการให้แก่ลูกค้า
หรือจะเป็น “การตลาดดิจิทัล” หรือ Digital Marketing นำมาใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภค เพื่อนำไปสู่การวางแผนการตลาดและการวางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงการใช้ Generative AI เพื่อสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ ในการทำคอนเทนต์ออนไลน์ ซึ่งช่วยประหยัดเวลาการทำงานของพนักงานและลดค่าใช้จ่ายในการผลิตเนื้อหาสำหรับการทำโฆษณาหรือแคมเปญต่าง ๆ
2. Cloud Computing
เทรนด์ฮิตมาแรงของเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัลอย่างที่สอง คือ Cloud Computing ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่หลาย ๆ องค์กรกำลังให้ความสนใจและเลือกเปลี่ยนมาใช้งานแทน On-Premises Data Center เป็นหนึ่งในสัญญาณของการเข้าสู่ยุคสมัย Digital Transformation ครั้งยิ่งใหญ่สำหรับแวดวงการทำธุรกิจ
Cloud Computing เป็นการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บข้อมูล เซิร์ฟเวอร์ หรือซอฟต์แวร์ ผ่านศูนย์ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตแทนการติดตั้งลงคอมพิวเตอร์หรือเซิร์ฟเวอร์ขององค์กร ประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเซิร์ฟเวอร์ของแต่ละปีได้อย่างมหาศาล ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะถูกจัดเก็บบนคลาวด์ (Cloud) จากผู้ให้บริการบริษัทต่าง ๆ เช่น Amazon Web Services (AWS), Microsoft Azure, Google Cloud เป็นต้น
Cloud Computing เป็นหนึ่งในคำตอบของ “5 เทรนด์ฮิตของเทคโนโลยี มีอะไรบ้าง?” เพราะจุดเด่นของการนำ Cloud Computing มาใช้งานในยุคเทคโนโลยี คือ “การทำงานร่วมกัน” หรือ Collaboration โดยการแชร์เอกสารและข้อมูลต่าง ๆ บนคลาวด์ เช่น Google Workspace, Microsoft 365 เป็นต้น ช่วยให้สมาชิกภายในทีมสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเรียลไทม์ เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็ว ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของโลกก็สามารถทำงานร่วมกันได้ตลอดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง รวมถึงเป็นตัวช่วยดี ๆ สำหรับการ Work From Anywhere อีกด้วย

3. บล็อกเชน (Blockchain)
เทรนด์ฮิตมาแรงของเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัลอย่างที่สาม คือ บล็อกเชน หรือ Blockchain ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีความโดดเด่นในเรื่องของความปลอดภัย โดยเฉพาะความปลอดภัยในการทำธุรกรรมและการจัดการข้อมูลในระบบดิจิทัล เนื่องจากบล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีสำหรับการจัดเก็บข้อมูลที่มีความปลอดภัยสูง ไม่สามารถแก้ไข เปลี่ยนแปลง และแทรกแซงได้ตามใจ ข้อมูลต่าง ๆ ที่ถูกบันทึกในระบบบล็อกเชนจะเชื่อมโยงกันเป็นสายโซ่ โดยการบันทึกข้อมูลทุกครั้งจะต้องได้รับการยืนยันจากเครือข่ายของผู้ใช้งานก่อนจึงจะสามารถบันทึกข้อมูลได้ เพื่อความปลอดภัย ความโปร่งใส และความน่าเชื่อถือของการรักษาข้อมูล
การนำบล็อกเชนมาประยุกต์ใช้ในยุคเทคโนโลยี ส่วนใหญ่จะพบในการทำงานด้าน “การเงินและธนาคาร” เริ่มตั้งแต่การใช้บล็อกเชนเพื่อจัดการสกุลเงินดิจิทัลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Bitcoin Ethereum หรือสกุลเงินที่ถูกสร้างขึ้นโดยธนาคารกลาง (CBDC) ไปจนถึงการทำสัญญาอัตโนมัติกับพาร์ทเนอร์โดยไม่ต้องพึ่งพาผู้ดูแล
นอกจากนี้ยังสามารถใช้บล็อกเชนในการทำงานด้าน “Supply Chain” ได้เช่นกัน โดยนำมาใช้ในการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการผลิตและกระบวนการจัดส่งสินค้า สามารถติดตามและตรวจสอบสินค้าได้ว่าการขนส่งจากต้นทางไปยังปลายทางมีความปลอดภัย โปร่งใส และน่าเชื่อถืออย่างแท้จริง
4. เทคโนโลยีสีเขียว (Green Technology)
เทรนด์ฮิตมาแรงของเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัลอย่างที่สี่ คือ เทคโนโลยีสีเขียว หรือ Green Technology เป็นเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากที่สุด เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไม่ให้เสียหายหรือถูกทำลายเพราะการประกอบธุรกิจของมนุษย์ ซึ่งเป็นสัญญาณอันดีว่าคนในสังคมกำลังหันมาให้ความสำคัญและตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น
เทคโนโลยีสีเขียวเป็นการพัฒนานวัตกรรมเพื่อช่วยลดการใช้พลังงาน เปลี่ยนมาใช้พลังงานทดแทนที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานชีวภาพ เป็นต้น ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Footprint) รวมถึงออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแต่สามารถใช้งานได้จริงในระยะยาว
เทคโนโลยีสีเขียว เป็นหนึ่งในคำตอบของ “5 เทรนด์ฮิตของเทคโนโลยี มีอะไรบ้าง?” แม้จะเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ใครหลายคนยังไม่คุ้นเคยมากนัก แต่การนำเทคโนโลยีสีเขียวมาประยุกต์ใช้ในการทำงานขององค์กรสามารถทำได้หลากหลายวิธี เช่น การใช้ Cloud Computing เพื่อลดการใช้ทรัพยากร การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการขับเคลื่อน Data Center หรือเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับการประมวลผลขนาดใหญ่ การเลือกใช้อุปกรณ์ IT ที่ถูกออกแบบให้ใช้พลังงานน้อยลง เป็นต้น
การเลือกใช้เทคโนโลยีสีเขียว นอกจากจะช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแล้ว ยังเป็น “ข้อได้เปรียบ” สำหรับการทำธุรกิจ เพราะสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม โดยองค์กรสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือโซลูชันที่โดดเด่นเรื่อง “ความยั่งยืน” มาเป็นจุดแข็งของการทำธุรกิจ ก็จะได้เปรียบมากกว่าองค์กรที่เพิกเฉยต่อประเด็นเหล่านี้

5. Quantum Computing
เทรนด์ฮิตมาแรงของเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัลอย่างที่ห้า คือ Quantum Computing เทคโนโลยีแห่งอนาคตที่จะเปลี่ยนแปลงการประมวลผลเชิงลึกให้มีความลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น เพราะเทคโนโลยี Quantum Computing อาศัยหลักการทางฟิสิกส์ในการทำงาน ช่วยให้สามารถคำนวณข้อมูลที่มีความซับซ้อนได้เร็วขึ้นหลายพันเท่าเมื่อเทียบกับคอมพิวเตอร์ทั่วไป
Quantum Computing เป็นหนึ่งในคำตอบของ “5 เทรนด์ฮิตของเทคโนโลยี มีอะไรบ้าง?” เพราะมีศักยภาพมากพอที่จะปฏิวัติการทำงานหลาย ๆ ด้านของอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารหัสข้อมูล การพัฒนา AI การพัฒนาธุรกิจที่มีความซับซ้อน หรือการทำงานด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ต่าง ๆ แม้ในปัจจุบัน Quantum Computing ยังคงมีข้อจำกัดของการใช้งานอยู่มากและมีค่าใช้จ่ายสูงในการพัฒนา แต่ในอนาคต Quantum Computing อาจเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนการทำงานขององค์กรต่าง ๆ ในโลกดิจิทัลก็เป็นได้
จบไปแล้วกับการตอบคำถามที่ว่าด้วยเรื่อง “เทรนด์ฮิตของเทคโนโลยี มีอะไรบ้าง?” และก่อนจะลากันไปในวันนี้ BASE Playhouse ขอสรุปว่า การนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้กับการทำงาน จะทำให้การทำงานขององค์กรมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะเทคโนโลยีสามารถเป็น “ตัวช่วย” ที่ยอดเยี่ยมให้กับมนุษย์ ตั้งแต่การสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ การพัฒนานวัตกรรมหรือโซลูชันที่บกพร่องให้สมบูรณ์แบบ ไปจนถึงการบริการลูกค้าให้รวดเร็วทันใจ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที
ในขณะเดียวกัน องค์กรที่มองข้ามการเปลี่ยนแปลง ไม่ให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีมาใช้งาน ขาดความยืดหยุ่นในการทำงาน ก็มีแนวโน้มที่จะสูญเสียความสามารถในการแข่งขันอันดุเดือดในยุคเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัลและพลาดโอกาสสำคัญในการขยับขยายธุรกิจให้เติบโต
อ้างอิงจาก
จับตา 8 เทร็นด์เทคโนโลยี ที่จะเข้ามายกระดับธุรกิจในปี 2025, Jenosize
5 เทรนด์ Digital transformation มาแรงในปี 2022 ที่ธุรกิจต้องรู้, AI GEN
หลักสูตรแนะนำ

Generative AI in Action
เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้เร็วขึ้น ด้วยพลังสร้างสรรค์จาก AI
หลักสูตรนี้จะพาคุณไปเรียนรู้ตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน กลไกการทำงาน กระบวนการคิด การฝึกฝนเทคนิคการออกแบบคำถามหรือคำสั่ง ให้คุณได้ฝึกทักษะแห่งโลกอนาคต ที่นำไปใช้งานได้จริง ตลอดจนรู้จักวิธีเลือก AI Tools ที่ตอบโจทย์สำหรับคุณ
คอร์สนี้เหมาะกับ
'Generative AI in Action' เหมาะสำหรับบุคลากรในทุกระดับขององค์กร
สิ่งที่ผู้เรียนจะได้รับ
- Deep Understanding - เข้าใจ concept กลไกการทำงานของ Generative AI และ use-case การนำไปใช้ในโลกธุรกิจ
- Creativity Unlocked - ได้ฝึกเทคนิคการสั่งงาน AI ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อปลดล็อกกระบวนการคิด
- Enhanced Efficiency - เพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกับ AI อย่างมีประสิทธิภาพ
รายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติม > อ่านที่นี่
ติดต่อปรึกษา BASE Playhouse ฟรี! โทร 094-191-4626 หรือกรอกข้อมูลเพื่อติดต่อกลับ ที่นี่