Aptitude Test + Personality Test = สูตรลับการคัดเลือกพนักงานที่ HR ต้องรู้
ค้นพบสูตรลับการคัดเลือกพนักงานด้วย Aptitude Test + Personality Test พร้อมแนะนำ SEEN เครื่องมือช่วย HR หาคนเก่งและคนใช่ในเวลาเดียวกัน

บทนำ: ปัญหาคลาสสิกของ HR ในการหาคนที่ใช่
เคยเจอสถานการณ์นี้ไหม? ผู้สมัครคนหนึ่งดูดีในเรซูเม่ สัมภาษณ์เป๊ะทุกคำถาม แต่พอเริ่มงานจริงกลับทำงานไม่เป็น หรือคนที่เก่งมากแต่ไม่เข้ากับวัฒนธรรมทีมจนสร้างความขัดแย้ง
นี่คือปัญหาที่ HR ยุคใหม่ต้องเจอในทุกวัน และนี่คือเหตุผลที่ Aptitude Test และ Personality Test กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้!
ในบทความนี้ คุณจะพบสูตรลับที่ช่วยให้ HR คัดเลือกคนได้ทั้ง "เก่ง" และ "ใช่" ในเวลาเดียวกัน พร้อมข้อมูลเชิงลึกจากงานวิจัยและตัวอย่างจริง
Aptitude Test คืออะไร? วัดอะไรบ้าง?
Aptitude Test หรือ แบบทดสอบความถนัด คือเครื่องมือวัดความสามารถเฉพาะด้านของบุคคล เช่น
- การคิดวิเคราะห์ (Logical Reasoning): ทดสอบความสามารถในการแก้ปัญหาและวิเคราะห์ข้อมูล เช่น การตีความกราฟหรือข้อมูลตัวเลข
- การประมวลผลข้อมูล (Data Interpretation): วัดความสามารถในการเข้าใจและจัดการกับข้อมูลใหม่ๆ
- การปรับตัวต่อสถานการณ์ใหม่ (Adaptability): วัดว่าผู้สมัครสามารถปรับตัวกับสถานการณ์ที่ไม่เคยเจอมาก่อนหรือไม่
ประเภทของ Aptitude Test
- Numerical Reasoning: ทดสอบทักษะการคิดเชิงตัวเลข เช่น การคำนวณและการตีความกราฟ
- Verbal Reasoning: วัดทักษะด้านภาษา เช่น การอ่านจับใจความหรือการวิเคราะห์ข้อความ
- Abstract Reasoning: ทดสอบความสามารถในการคิดเชิงตรรกะผ่านรูปแบบและสัญลักษณ์
ข้อดีของ Aptitude Test
- ไม่ได้วัดความรู้เดิม: Aptitude Test ไม่เน้นการวัดสิ่งที่เรียนมา แต่เน้นศักยภาพโดยธรรมชาติ เช่น การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
- เป็นกลางและยุติธรรม: ลดอคติจากเรซูเม่หรือประสบการณ์ ทำให้ทุกคนมีโอกาสแสดงศักยภาพอย่างเท่าเทียม

Personality Test คืออะไร? สำคัญแค่ไหน?
Personality Test หรือ แบบทดสอบบุคลิกภาพ คือเครื่องมือวิเคราะห์ลักษณะนิสัย ทัศนคติ และพฤติกรรมของผู้สมัคร เช่น
- การทำงานร่วมกับทีม: วัดว่าผู้สมัครสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดีแค่ไหน
- การจัดการกับความเครียด: วิเคราะห์วิธีรับมือกับสถานการณ์กดดัน
- แนวทางการตัดสินใจ: ดูว่าผู้สมัครมีวิธีคิดและตัดสินใจอย่างไร
ประเภทของ Personality Test
- DISC Model: วิเคราะห์บุคลิกภาพ 4 ด้าน ได้แก่ Dominance, Influence, Steadiness, และ Conscientiousness
- MBTI (Myers-Briggs Type Indicator): แบ่งบุคลิกภาพออกเป็น 16 ประเภท เช่น ENFP หรือ ISTJ ซึ่งช่วยให้ HR เข้าใจวิธีคิดและแรงจูงใจของผู้สมัคร
- Big Five Personality Traits: วัดบุคลิกภาพ 5 ด้าน ได้แก่ ความเปิดกว้างต่อประสบการณ์ ความรับผิดชอบ ความชอบเข้าสังคม ความเห็นอกเห็นใจ และความมั่นคงทางอารมณ์
ข้อดีของ Personality Test
- ช่วยลด Turnover Rate: งานวิจัยจาก Gallup พบว่าองค์กรที่ใช้ Personality Test มีโอกาสลดอัตราการลาออกลงถึง 30%
- สร้างทีมที่สมดุล: ช่วยให้ HR เลือกคนที่เหมาะสมกับวัฒนธรรมองค์กรและทีม
- เพิ่ม Productivity: การเลือกคนที่เหมาะสมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม

ทำไมต้องใช้ Aptitude Test + Personality Test คู่กัน?
การทดสอบทั้งสองแบบเปรียบเสมือน "สองด้านของเหรียญ" ที่เสริมกัน:
- Aptitude Test = วัด "ความเก่ง"
- Personality Test = วัด "ความใช่"
SEEN: เครื่องมือช่วย HR คัดเลือกคนเก่ง+คนใช่ในที่เดียว
SEEN จาก BASE Playhouse คือแพลตฟอร์มที่รวม Aptitude Test และ Personality Test ไว้ในระบบเดียว ช่วยให้ HR ได้ข้อมูลเชิงลึกแบบ 360 องศา
5 เหตุผลที่ควรใช้ SEEN
- วัด Ability Fit + Culture Fit: ทดสอบทั้งทักษะเฉพาะทางและความเข้ากับวัฒนธรรมองค์กร
- Dashboard ใช้ง่าย: ดูผลลัพธ์แบบเรียลไทม์และเปรียบเทียบผู้สมัครได้ทันที
- ลดเวลาในการสรรหา: กรองผู้สมัครไม่เหมาะสมตั้งแต่ขั้นแรก
- วิเคราะห์ Skill Gap: หาช่องว่างทักษะเพื่อพัฒนาพนักงานต่อ
- เพิ่มความหลากหลาย: ลดอคติด้วยข้อมูลเชิงวัตถุ
ทดลองใช้ SEEN ได้ฟรีที่ BASE Playhouse
เคล็ดลับการใช้ Aptitude Test + Personality Test สำหรับ HR
- กำหนดเป้าหมายชัดเจน: ต้องการลด Turnover หรือเพิ่ม Productivity?
- เลือกเครื่องมือที่ถูกต้อง: ใช้แพลตฟอร์มอย่าง SEEN ที่ออกแบบมาสำหรับ HR โดยเฉพาะ
- สื่อสารกับผู้สมัคร: อธิบายว่าการทดสอบช่วยให้องค์กรเข้าใจพวกเขามากขึ้น
- ฝึกทีมสัมภาษณ์: ใช้ผลทดสอบสร้างคำถามเจาะลึก เช่น "ผลทดสอบบอกว่าคุณชอบทำงานคนเดียว คุณจะปรับตัวยังไงในทีมที่ต้อง Collaboration สูง?"
- ติดตามผลระยะยาว: เปรียบเทียบผลการทำงานจริงกับผลทดสอบเพื่อปรับปรุงระบบ
บทสรุป: นี่คืออนาคตของการสรรหาพนักงาน
ในยุคที่การแข่งขันด้าน Talent ดุเดือด การใช้ Aptitude Test + Personality Test ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็น "ความจำเป็น" ที่ช่วยให้องค์กรได้คนที่ทั้งเก่ง ใช่ และอยู่กับองค์กรในระยะยาว
และด้วยเครื่องมืออย่าง SEEN กระบวนการสรรหาที่เคยใช้เวลาหลายสัปดาห์จะถูกย่นเหลือไม่กี่วัน พร้อมเพิ่มโอกาสได้ Talent ระดับ Top 1% เข้ามาร่วมทีม