แบบทดสอบ DISC คืออะไร? ทำไมทุกองค์กรถึงใช้วิเคราะห์บุคลิกภาพพนักงาน
DISC ไม่ใช่แค่แบบทดสอบบุคลิกภาพทั่วไป แต่เป็น เครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดความขัดแย้ง และสร้างทีมที่แข็งแกร่งขึ้น ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จัก DISC Model อย่างละเอียด และดูว่าทำไมบริษัทระดับโลกถึงนำไปใช้วิเคราะห์บุคลิกภาพพนักงาน

แบบทดสอบ DISC คืออะไร? ทำไมทุกองค์กรถึงใช้วิเคราะห์บุคลิกภาพพนักงาน
เคยสงสัยไหมว่าทำไมบางคนทำงานเข้าขากับทีมได้ดี ในขณะที่บางคนอาจมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานอยู่บ่อยๆ? คำตอบอาจอยู่ที่บุคลิกภาพและสไตล์การทำงานที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นเหตุผลที่หลายองค์กรใช้ แบบทดสอบ DISC เพื่อช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมและแรงจูงใจของพนักงานได้ดียิ่งขึ้น
DISC ไม่ใช่แค่แบบทดสอบบุคลิกภาพทั่วไป แต่เป็น เครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดความขัดแย้ง และสร้างทีมที่แข็งแกร่งขึ้น ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จัก DISC Model อย่างละเอียด และดูว่าทำไมบริษัทระดับโลกถึงนำไปใช้วิเคราะห์บุคลิกภาพพนักงาน
ทำความรู้จักกับ DISC Model
ความหมายและที่มาของแบบทดสอบบุคลิกภาพ DISC
DISC Model เป็นแบบจำลองที่พัฒนาโดยนักจิตวิทยาชื่อ Dr. William Moulton Marston ในปี 1928 โดยมีแนวคิดพื้นฐานว่า พฤติกรรมของคนเราสามารถจำแนกออกเป็น 4 ประเภทหลัก ตามปฏิสัมพันธ์ของบุคคลกับสภาพแวดล้อม ได้แก่
- D - Dominance (ผู้นำ)
- I - Influence (ผู้มีอิทธิพล)
- S - Steadiness (ผู้รักความสงบ)
- C - Conscientious (นักวิเคราะห์)
ในปัจจุบัน DISC ถูกนำไปใช้ วิเคราะห์บุคลิกภาพและปรับกลยุทธ์การบริหารคน ในองค์กรเพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
เจาะลึกบุคลิกภาพทั้ง 4 แบบใน DISC
1. D - Dominance (ผู้นำ)
ลักษณะเด่น:
- ชอบความท้าทาย
- กล้าตัดสินใจ
- โฟกัสที่ผลลัพธ์มากกว่ากระบวนการ
จุดแข็ง:
✅ เป็นผู้นำที่มีความมุ่งมั่นและขับเคลื่อนทีมไปข้างหน้า
✅ สามารถรับมือกับความกดดันได้ดี
จุดที่ต้องปรับปรุง:
❌ อาจมีความเป็นตัวของตัวเองสูง และฟังความคิดเห็นของผู้อื่นน้อย
❌ บางครั้งอาจดูเผด็จการเกินไป
การบริหารจัดการคนประเภท D:
- ให้ความท้าทายและเป้าหมายที่ชัดเจน
- อย่าเสียเวลากับรายละเอียดที่ไม่จำเป็น เพราะพวกเขาเน้นผลลัพธ์มากกว่า
2. I - Influence (ผู้มีอิทธิพล)
ลักษณะเด่น:
- เป็นมิตร มีมนุษยสัมพันธ์ดี
- มีพลังบวก และชอบสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่น
- มีทักษะการสื่อสารที่ยอดเยี่ยม
จุดแข็ง:
✅ สร้างบรรยากาศที่ดีในที่ทำงาน
✅ เป็นนักสื่อสารที่เก่ง สามารถโน้มน้าวผู้อื่นได้ดี
จุดที่ต้องปรับปรุง:
❌ อาจขาดความเป็นระบบและหลงลืมรายละเอียด
❌ อาจตัดสินใจตามอารมณ์มากกว่าข้อมูล
การบริหารจัดการคนประเภท I:
- เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วม
- ใช้การสื่อสารที่สร้างแรงจูงใจแทนการบังคับ
3. S - Steadiness (ผู้รักความสงบ)
ลักษณะเด่น:
- ใจเย็น อดทน
- เป็นผู้ฟังที่ดี และชอบช่วยเหลือผู้อื่น
- ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว
จุดแข็ง:
✅ ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี
✅ มีความอดทนและเข้าใจความรู้สึกของเพื่อนร่วมงาน
จุดที่ต้องปรับปรุง:
❌ อาจขาดความมั่นใจเมื่อต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญ
❌ อาจไม่ชอบการเผชิญหน้าหรือแก้ปัญหาความขัดแย้ง
การบริหารจัดการคนประเภท S:
- ให้ความมั่นใจและการสนับสนุนที่ชัดเจน
- หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วเกินไป
4. C - Conscientious (นักวิเคราะห์)
ลักษณะเด่น:
- มีความรอบคอบ และให้ความสำคัญกับรายละเอียด
- มีตรรกะและเหตุผลในการตัดสินใจ
- ให้ความสำคัญกับมาตรฐานและคุณภาพ
จุดแข็ง:
✅ ทำงานอย่างแม่นยำและมีคุณภาพสูง
✅ เป็นนักวางแผนและนักวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
จุดที่ต้องปรับปรุง:
❌ อาจจู้จี้กับรายละเอียดเล็กน้อยเกินไป
❌ อาจไม่กล้าตัดสินใจหากไม่มีข้อมูลเพียงพอ
การบริหารจัดการคนประเภท C:
- ให้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงและอ้างอิงได้
- ให้เวลาพวกเขาได้คิดและวิเคราะห์ก่อนตัดสินใจ
ประโยชน์ของ DISC Model ต่อองค์กร
1. สำหรับฝ่าย HR
- ใช้ DISC ในการคัดเลือกพนักงานให้เหมาะกับตำแหน่งงาน
- วางแผนพัฒนาศักยภาพพนักงานรายบุคคล
- จัดการความขัดแย้งและสร้างความเข้าใจในทีม
2. สำหรับหัวหน้างาน
- มอบหมายงานให้เหมาะกับบุคลิกภาพ
- สร้างทีมที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- พัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ
3. สำหรับพนักงาน
- เข้าใจตัวเองและเพื่อนร่วมงานมากขึ้น
- พัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีม
- ลดความขัดแย้งในที่ทำงาน
การประยุกต์ใช้ DISC ในองค์กร
✔ แนวทางการใช้ DISC เพื่อพัฒนาทีม
✔ เทคนิคการสื่อสารกับคนแต่ละประเภท
✔ สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เข้าใจความแตกต่าง
บทสรุป
DISC ไม่ใช่แค่แบบทดสอบบุคลิกภาพ แต่เป็น เครื่องมือที่ช่วยให้บุคคลและองค์กรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยช่วยให้เราเข้าใจตัวเองและเพื่อนร่วมงานได้ดียิ่งขึ้น
หากองค์กรของคุณยังไม่ได้ใช้ DISC Model นี่อาจเป็นโอกาสดีที่ควรเริ่มต้น เพราะ ผลลัพธ์ที่ได้จะช่วยให้ทีมทำงานร่วมกันได้ราบรื่นขึ้น ลดความขัดแย้ง และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
หลักสูตรที่แนะนำ

Effective Communication
การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเพื่อความร่วมมือในทีม
หลักสูตรการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพช่วยให้พนักงานสามารถสร้างความเข้าใจและความร่วมมือในองค์กรได้ดีขึ้น โดยเฉพาะการสื่อสารในยุคดิจิทัลที่มีทั้งออนไลน์และออฟไลน์
การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ไม่ใช่แค่การพูดคุย แต่เป็นการสื่อสารที่ทำให้ทั้งผู้พูดและผู้ฟัง เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน Effective Communication ไม่เพียงแต่จะช่วยลดความผิดพลาด และความขัดแย้งในการทำงาน แต่ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในองค์กรด้วย
คอร์สนี้เหมาะกับ
บุคลากรทุกระดับภายในองค์กร องค์กรที่มีความหลากหลายในการทำงาน การทำงานข้ามแผนกข้ามสายงาน การทำงานที่มีความแตกต่างระหว่าง Generation
สิ่งที่ผู้เรียนจะได้รับ
- เข้าใจถึงปัจจัยที่สำคัญของการสื่อสารที่ดี และ สามารถสร้างพื้นฐานการสื่อสารที่แข็งแรงได้
- เรียนรู้เทคนิคการสื่อสารในบริบทต่าง ๆ ผ่านสถานการณ์จริงในที่ทำงาน
- สามารถสื่อสารได้อย่างเป็นมืออาชีพ สร้างความประทับใจให้ทั้ง ลูกค้า และเพื่อนร่วมงาน
- เสริมความมั่นใจในการสื่อสาร กล้าแสดงความคิดเห็น และเสนอไอเดีย
รายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติม > อ่านที่นี่
ติดต่อปรึกษา BASE Playhouse ฟรี! โทร 094-191-4626 หรือกรอกข้อมูลเพื่อติดต่อกลับ ที่นี่