3 ขั้นตอนง่าย ๆ ใช้ AI แต่งเพลงอย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ระดับมืออาชีพ
ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับยุคเทคโนโลยีที่พัฒนาไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว “AI แต่งเพลง” ได้กลายเป็นอาวุธลับที่มาแรงในหมู่คอนเทนต์ครีเอเตอร์ นักแต่งเพลงมือใหม่ หรือแม้แต่วงการโฆษณาเองก็เริ่มหันมาให้ความสนใจ เพราะสามารถเปลี่ยนไอเดียง่าย ๆ ให้กลายเป็นสุดยอดบทเพลงที่มีคุณภาพราวกับผลงานของโปรดิวเซอร์มืออาชีพ

3 ขั้นตอนง่าย ๆ ใช้ AI แต่งเพลงอย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ระดับมืออาชีพ
ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับยุคเทคโนโลยีที่พัฒนาไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว “AI แต่งเพลง” ได้กลายเป็นอาวุธลับที่มาแรงในหมู่คอนเทนต์ครีเอเตอร์ นักแต่งเพลงมือใหม่ หรือแม้แต่วงการโฆษณาเองก็เริ่มหันมาให้ความสนใจ เพราะสามารถเปลี่ยนไอเดียง่าย ๆ ให้กลายเป็นสุดยอดบทเพลงที่มีคุณภาพราวกับผลงานของโปรดิวเซอร์มืออาชีพ
บทความในวันนี้ BASE Playhouse จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ AI แต่งเพลงให้มากขึ้น พร้อมสอน 3 ขั้นตอนง่าย ๆ สำหรับใช้ AI แต่งเพลง Suno Generative AI ที่ใช้งานง่ายแสนง่ายเพียงปลายนิ้วคลิก ถ้าทุกคนพร้อมแล้ว เตรียมปากกาขึ้นมาจดแล้วไปอ่านพร้อม ๆ กันเลย!
ทำความรู้จักกับเทคโนโลยีอัจฉริยะ “AI แต่งเพลง”
เคยคิดเล่น ๆ กันไหมว่า “อยากมีเพลงเป็นของตัวเองสักเพลงในชีวิต” แต่คิด ๆ แล้วก็ดูเป็นเรื่องไกลตัวเสียเหลือเกินหากไม่มีความรู้พื้นฐานทางด้านดนตรี แถมแต่งเนื้อเพลงเองก็ไม่เป็น โปรดิวเซอร์ก็ไม่มี ยิ่งพูดถึงเวลายิ่งแล้วใหญ่ แค่ใช้ชีวิตแต่ละวันก็เหลือเวลาพักผ่อนเพียงน้อยนิด ในขณะที่การสร้างสรรค์บทเพลงขึ้นมาหนึ่งบทเพลงจะต้องใช้ระยะเวลาและทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อให้ผลงานออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุด
แต่ในปัจจุบัน โลกของเราได้ก้าวเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีอย่างแท้จริงและสามารถก้าวข้ามผ่านข้อจำกัดต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย ทำให้การสร้างสรรค์บทเพลงไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่เพียงนักดนตรีมืออาชีพและโปรดิวเซอร์อีกต่อไป เพราะวันนี้ AI แต่งเพลง กลายเป็นสุดยอดเครื่องมือที่จะทำให้ทุกคนสามารถแต่งเพลงเองได้ง่าย ๆ โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานทางด้านดนตรีเลยแม้แต่นิดเดียว
AI แต่งเพลง เป็นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ Generative AI ที่ถูกออกแบบ พัฒนา และฝึกฝนจนสามารถสร้างสรรค์เมโลดี้ (Melody) จังหวะ (Rhythm) ดนตรีประกอบ (Background Music) และเนื้อเพลง (Lyric) จากชุดข้อมูลคำสั่ง (Prompt) ของผู้ใช้งานที่ถูกป้อนลงไป โดยอาศัยการประมวลผลจากฐานข้อมูลเพลงนับล้าน ๆ บทเพลงและหลากหลายแนวดนตรี เพื่อให้ AI แต่งเพลงสามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมาในระยะเวลาไม่กี่นาที แต่ได้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งจนหลาย ๆ คนต้องหันมาจับตามอง
ในปัจจุบัน AI แต่งเพลงหลาย ๆ บริษัทถูกออกแบบและพัฒนาให้สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายและรองรับการแต่งเพลงหลากหลายภาษา ทำให้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว รวมถึง AI แต่งเพลงไทยก็กำลังเป็นเทรนด์ในโลกออนไลน์เช่นกัน ยิ่งสำหรับการทำงานของสายคอนเทนต์ครีเอเตอร์ สายตัดต่อ หรือสายโฆษณา AI แต่งเพลงนั้นสามารถสร้างสรรค์ไอเดียสุดเจ๋งในจินตนาการให้กลายเป็นจริงได้ภายในพริบตาเดียว
แม้ว่า AI แต่งเพลงจะยังมีข้อจำกัดในเรื่องของความเป็นธรรมชาติ อารมณ์ของเพลง และความลึกซึ้งที่ยังไม่อาจเทียบเท่าผลงานจากฝีมือของมนุษย์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เทคโนโลยี AI แต่งเพลงเข้ามาเขย่าวงการดนตรีและเปิดโลกใบใหม่ให้กับคนธรรมดาที่อยากลองสร้างสรรค์บทเพลงเป็นของตัวเองสักครั้งในชีวิต

3 ขั้นตอนใช้ AI แต่งเพลงไทยให้ได้ผลลัพธ์ระดับมือโปร
การใช้ AI แต่งเพลง Suno และ Chat GPT เป็น Generative AI ที่จะเราเลือกมาเป็นตัวช่วยในวันนี้ เพราะเป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่าย ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หัดแต่งเพลงหรือนักดนตรีมืออาชีพก็สามารถใช้ได้แบบชิลล์ ๆ
ขั้นตอนแรก: แต่งเนื้อเพลง
ขั้นตอนแรกของการใช้ AI แต่งเพลงไทย เราจะเริ่มจากการ “แต่งเนื้อเพลง” ซึ่งในวันนี้เราจะเลือกใช้ Generative AI ที่ทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี นั่นก็คือ Chat GPT โดยเริ่มจากการป้อนคำสั่งที่เราต้องการลงไปอย่างละเอียด ตั้งแต่สไตล์ของเพลง แนวเพลง คอนเซปต์ของเพลง อารมณ์ของเพลง ไปจนถึงความยาวของเนื้อเพลงที่ต้องการ ในขั้นตอนนี้ควรระบุความต้องการของตัวเองให้ชัดเจนและละเอียดมากที่สุด เพื่อให้ผลลัพธ์ของเนื้อเพลงออกมาตรงใจ เช่น ช่วยแต่งเพลงรักให้แฟนวันครบรอบ 1 ปี ความยาวของเพลงประมาณ 2 นาที เป็นต้น หลังจากนั้นกด Generate เพียงเท่านี้ก็จะได้ผลลัพธ์ของเนื้อเพลงออกมาตามความต้องการ
ขั้นตอนที่สอง: ปรับแต่งเนื้อเพลง
ขั้นตอนที่สองของการใช้ AI แต่งเพลงไทย คือ “การปรับแต่งเนื้อเพลง” เป็นขั้นตอนที่ต้องงัดทักษะภาษาไทยที่ร่ำเรียนมาตั้งแต่อนุบาลออกมาใช้! ตรงไหนยังไม่ถูกใจ ตรงไหนดีได้อีก สามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ ซึ่งการปรับแต่งเนื้อเพลงจะทำให้เนื้อเพลงของเรามีความเป็นธรรมชาติตามภาษาของมนุษย์มากขึ้น รวมถึงมีเอกลักษณ์ที่แสดงความเป็นตัวตนของเราได้อีกด้วย
ขั้นตอนสุดท้าย: สร้างเพลง
ขั้นตอนสุดท้ายของการใช้ AI แต่งเพลง คือ “การสร้างเพลง” ถึงเวลาแล้วที่เพลงของเราจะออกมาเป็นรูปเป็นร่างเสียที โดยวันนี้เราจะเลือก AI แต่งเพลง Suno มาเป็นตัวช่วยในการสร้างเพลง ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยเริ่มจากกดปุ่ม “Create” และนำเนื้อเพลงของเราใส่ลงในช่อง “Lyrics” จากนั้นก็จะเข้าสู่ช่วงที่สำคัญที่สุด! นั่นก็คือ การเลือก “Style of Music” จากนั้นก็คลิกสร้างเพลง เพียงเท่านี้ก็จะได้บทเพลงที่ต้องการออกมาภายใน 5 นาที

ข้อดีและข้อจำกัดของการใช้ AI แต่งเพลง
ข้อดี
1. ใช้งานง่าย
ข้อดีข้อแรกของการใช้ AI แต่งเพลง คือ ใช้งานง่าย เนื่องจาก AI แต่งเพลงเป็น Generative AI ที่ถูกสร้างมาเพื่อผู้ใช้งานที่ไม่ใช่มืออาชีพโดยเฉพาะ ดังนั้น การใช้งาน AI แต่งเพลงไทยจึงมีขั้นตอนที่สุดแสนจะง่ายดาย ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานทางด้านดนตรี ตัวโน้ต ทำนอง การเขียนเนื้อเพลง หรือการใช้งาน Generative AI ก็สามารถใช้ AI แต่งเพลงไทยได้โดยไม่ต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษานาน เป็นเครื่องมือที่ทำให้การแต่งเพลงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
2. ประหยัดทรัพยากร
ข้อดีข้อที่สองของการใช้ AI แต่งเพลง คือ ประหยัดทรัพยากร ทั้งทรัพยากรที่เป็นเวลาและต้นทุนในการสร้างสรรค์บทเพลง เนื่องจาก AI แต่งเพลง Suno เป็น Generative AI ที่ใช้งานง่าย เพียงแค่กำหนดอารมณ์ของเพลง สไตล์ของเพลง และใส่เนื้อเพลงที่ต้องการลงไป ใช้ระยะเวลาไม่ถึงห้านาทีก็สามารถสร้างสรรค์บทเพลงออกมาได้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้งาน
นอกจากนี้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทำอะไร หากเกิดไอเดียเจ๋ง ๆ ก็สามารถใช้ AI แต่งเพลง ณ ขณะนั้นได้เลยทันที โดยไม่ต้องรอโปรดิวเซอร์หรือเดินทางไปสตูดิโอเพื่ออัดเพลง
3. สร้างแรงบันดาลใจ
ข้อดีข้อสุดท้ายของการใช้ AI แต่งเพลง คือ สร้างแรงบันดาลใจ สำหรับนักดนตรีมืออาชีพ นักแต่งเพลงมือโปร หรือโปรดิวเซอร์มือทอง เมื่อพยายามใช้ความคิดในค้นหาไอเดียแปลก ๆ ใหม่ ๆ ในการสร้างสรรค์บทเพลงนาน ๆ เข้า สมองอาจจะเกิดความรู้สึกเหนื่อยล้าจนความคิดสร้างสรรค์หล่นหายไป แต่หากมีตัวช่วยดี ๆ อย่าง AI แต่งเพลงก็จะช่วยสร้างไอเดียใหม่ ๆ ในมุมมองที่อาจจะมองข้ามไป ช่วยจุดพลังเติมไฟและสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์บทเพลงให้กลับมาอีกครั้ง
ข้อจำกัด
1. ความสามารถในการเข้าถึงอารมณ์
ข้อจำกัดข้อแรกของการใช้ AI แต่งเพลง คือ ความสามารถในการเข้าถึงอารมณ์ แม้ AI แต่งเพลงจะเป็น Generative AI ที่ถูกออกแบบพัฒนาขึ้นเพื่อให้สามารถสร้างสรรค์ผลงานเพลงขึ้นมาใหม่ได้อย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตาม AI แต่งเพลงก็ยังมีข้อจำกัดในด้านการเข้าถึงอารมณ์ของมนุษย์ ไม่สามารถเข้าใจอารมณ์ที่ละเอียดลึกซึ้งและไม่สามารถถ่ายทอดความซับซ้อนออกมาได้มากพอหากเทียบกับนักดนตรีหรือนักแต่งเพลงซึ่งเป็นมนุษย์จริง ๆ
2. ปัญหาด้านลิขสิทธิ์
ข้อจำกัดข้อสองของการใช้ AI แต่งเพลง คือ ปัญหาด้านลิขสิทธิ์ เนื่องจาก AI แต่งเพลงเป็น Generative AI ที่ถูกออกแบบและพัฒนามาจากการประมวลผลบนฐานข้อมูลของเพลงนับล้าน ๆ บทเพลงบนโลกอินเทอร์เน็ต ทำให้การจะนำเพลงที่ใช้ AI แต่งเพลงไปใช้งานในเชิงพาณิชย์ควรตรวจสอบเรื่องลิขสิทธิ์ให้ดีก่อนทุกครั้ง
3. ขาดเอกลักษณ์ของเพลง
ข้อจำกัดข้อสามของการใช้ AI แต่งเพลง คือ ขาดเอกลักษณ์ของเพลง แม้เพลงที่ถูกสร้างด้วย AI แต่งเพลง Suno จะมีองค์ประกอบของเพลงที่มีคุณภาพ แต่นั่นกลับเป็นข้อจำกัดข้อใหญ่ เพราะความสมบูรณ์แบบเหล่านั้นจะทำให้บทเพลงที่ถูกสร้างสรรค์ออกมาขาดเอกลักษณ์ซึ่งมีผลต่อการจดจำของมนุษย์ ต่างจากบทเพลงที่ถูกสร้างสรรค์โดยนักดนตรี นักแต่งเพลง หรือโปรดิวเซอร์ ซึ่งเป็นมนุษย์จริง ๆ คนเหล่านี้ย่อมสร้างสรรค์บทเพลงออกมาได้ลึกซึ้ง กินใจ และเข้าถึงอารมณ์มนุษย์มากกว่า AI แต่งเพลงอย่างแน่นอน
แต่หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือที่จะช่วยเปลี่ยน “ไอเดีย” เหนือจินตนาการของคุณให้กลายเป็น “บทเพลง” แสนไพเราะภายในชั่วพริบตา AI แต่งเพลง Suno Generative AI ที่ใช้งานง่ายเพียงปลายนิ้วคลิก อาจจะเป็นคำตอบของโจทย์ที่คุณกำลังตามหาอยู่ก็เป็นได้
อ้างอิงจาก
ใช้ AI แต่งเพลงง่าย ๆ ด้วย Suno AI, CHULA MOOC
หลักสูตรแนะนำ

Generative AI in Action
เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้เร็วขึ้น ด้วยพลังสร้างสรรค์จาก AI
หลักสูตรนี้จะพาคุณไปเรียนรู้ตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน กลไกการทำงาน กระบวนการคิด การฝึกฝนเทคนิคการออกแบบคำถามหรือคำสั่ง ให้คุณได้ฝึกทักษะแห่งโลกอนาคต ที่นำไปใช้งานได้จริง ตลอดจนรู้จักวิธีเลือก AI Tools ที่ตอบโจทย์สำหรับคุณ
คอร์สนี้เหมาะกับ
'Generative AI in Action' เหมาะสำหรับบุคลากรในทุกระดับขององค์กร
สิ่งที่ผู้เรียนจะได้รับ
- Deep Understanding - เข้าใจ concept กลไกการทำงานของ Generative AI และ use-case การนำไปใช้ในโลกธุรกิจ
- Creativity Unlocked - ได้ฝึกเทคนิคการสั่งงาน AI ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อปลดล็อกกระบวนการคิด
- Enhanced Efficiency - เพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกับ AI อย่างมีประสิทธิภาพ
รายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติม > อ่านที่นี่
ติดต่อปรึกษา BASE Playhouse ฟรี! โทร 094-191-4626 หรือกรอกข้อมูลเพื่อติดต่อกลับ ที่นี่