ความขัดแย้งคืออะไร? เปิด 5 วิธีการบริหารความขัดแย้งที่องค์กรควรให้ความสำคัญ
“มนุษย์เป็นสัตว์สังคม” ซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยง ความขัดแย้ง ที่จะเกิดขึ้นเมื่ออยู่รวมกันเป็นหมู่คณะได้ ดังนั้น การเรียนรู้ การบริหารความขัดแย้ง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมการไว้ให้พร้อมรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ที่จะตามมา
ความขัดแย้งคืออะไร? เปิด 5 วิธีการบริหารความขัดแย้งที่องค์กรควรให้ความสำคัญ
“มนุษย์เป็นสัตว์สังคม” ซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยง ความขัดแย้ง ที่จะเกิดขึ้นเมื่ออยู่รวมกันเป็นหมู่คณะได้ ดังนั้น การเรียนรู้ การบริหารความขัดแย้ง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมการไว้ให้พร้อมรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ที่จะตามมา
ความขัดแย้งคืออะไร?
ความขัดแย้ง (Conflict) คือ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อความคิดเห็นของทั้งสองฝ่ายไม่ตรงกันหรือเป็นปรปักษ์ต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นความคิดเห็นระหว่างบุคคลกับบุคคล บุคคลกับกลุ่ม หรือบุคคลกับองค์กร ซึ่งเกิดจากความแตกต่างของความคิดเห็น ความรู้สึก ความต้องการ การกระทำ เป้าหมาย ค่านิยม และวัฒนธรรม ส่งผลให้เกิดความรู้สึกบาดหมางกันในจิตใจ โดยอาจแสดงออกมาในรูปแบบของอาการไม่พอใจ การต่อรอง หรือการทะเลาะกัน
อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้ง สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นโอกาสในการเรียนรู้และทำความเข้าใจในความแตกต่างซึ่งกันและกันได้ โดยอาศัยการสื่อสารที่ดีและการเปิดใจรับฟัง เพื่อร่วมมือกันหาทางออกที่เหมาะสม ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความสามัคคี
3 สัญญาณเตือนที่บ่งบอกความขัดแย้งกำลังเพิ่มขึ้น!
1. การสื่อสารระหว่างกันแย่ลง
การสื่อสารเป็นพื้นฐานสำคัญของการทำงานเป็นทีม หากการสื่อสารภายในทีมเริ่มมีแนวโน้มว่าจะเกิดปัญหา สามารถเป็นสัญญาณเตือนบ่งบอกว่ากำลังมี ความขัดแย้ง เกิดขึ้นภายในทีม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ส่วนตัวและทำให้บรรยากาศในการทำงานแย่ลง เช่น การสื่อสารแบบทางอ้อมโดยใช้บุคคลที่สาม การไม่ตอบกลับคำถาม การตอบคำถามที่กำกวมหรือไม่ชัดเจน การไม่รับฟังความคิดเห็นของสมาชิกคนอื่นภายในทีม
2. หลีกเลี่ยงการทำงานร่วมกัน
เมื่อสมาชิกภายในทีมหลีกเลี่ยงการทำงานร่วมกันหรือเกิดความรู้สึกไม่อยากติดต่อสื่อสารกัน แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกภายในทีมเริ่มเกิดปัญหา ซึ่งอาจเกิดจากความไม่พอใจหรือความเข้าใจผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่หากปล่อยไว้ ไม่รีบแก้ไขสถานการณ์ เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ จะค่อย ๆ สะสมจนเกิดเป็น ความขัดแย้ง ที่นำพาไปสู่การปะทะกันทางอารมณ์
3. ความตึงเครียดทางอารมณ์เพิ่มขึ้น
ความตึงเครียดทางอารมณ์ เป็นต้นเหตุของความขัดแย้ง เนื่องจากมนุษย์ที่มีความตึงเครียดทางอารมณ์ มักแสดงออกผ่านการใช้คำพูดที่รุนแรงโดยไม่สนใจความรู้สึกของอีกฝ่ายหรือการแสดงท่าทีไม่พอใจอย่างชัดเจน ดังนั้น ความตึงเครียดทางอารมณ์จึงเป็นสัญญาณเตือน ความขัดแย้ง ที่มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นจนอาจส่งผลกระทบที่รุนแรงในความสัมพันธ์ของสมาชิกภายในทีมในอนาคต
สาเหตุของความขัดแย้งภายในองค์กร
1. การสื่อสารที่ไม่ชัดเจน
การสื่อสารที่ไม่ชัดเจนหรือการสื่อสารที่มีความกำกวมระหว่างสมาชิกภายในทีม สมาชิกภายนอกทีม หรือองค์กร ล้วนแต่เป็นสาเหตุของการเกิด ความขัดแย้ง เพราะนำไปสู่ความไม่ชัดเจน ความเข้าใจผิด หรือความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนได้ เมื่อผลลัพธ์ของงานออกมาไม่เป็นตามที่ต้องการ ก็จะเกิดความไม่พอใจซึ่งกันและกัน นำไปสู่การทะเลาะภายในองค์กรได้
2. ภาระงานที่ไม่เท่าเทียม
การแบ่งหน้าที่รับผิดชอบอย่างไม่เท่าเทียมหรือไม่ตรงกับความสามารถของพนักงาน ทำให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองต้องพยายามและรับผิดชอบภาระงานมากกว่าคนอื่น นำไปสู่ความรู้สึกไม่พอใจในการทำงาน
3. ผลประโยชน์
เมื่อพนักงานรู้สึกว่าตนเองได้รับผลประโยชน์น้อยกว่าหน้าที่ที่ตนเองต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลตอบแทน โบนัส คำชื่นชม หรือการถูกมองเห็นความสำคัญภายในองค์กร จะทำให้พนักงานเกิดการเปรียบเทียบตนเองกับพนักงานคนอื่น ๆ ภายในองค์กร นำมาสู่ความรู้สึกไม่เท่าเทียม ไม่อยากทำงาน และไม่มีใจรักในองค์กร
4. วัฒนธรรมองค์กร
วัฒนธรรมองค์กร ที่ทำให้เกิด ความขัดแย้ง คือ วัฒนธรรมที่ไม่ส่งเสริมความแตกต่างของความคิดเห็นหรือพฤติกรรมของพนักงานอย่างเหมาะสม เช่น วัฒนธรรมการแข่งขันระหว่างบุคคลหรือระหว่างทีมมากเกินไป ทำให้พนักงานแข่งขันกันเองมากกว่าช่วยเหลือกันในการทำงาน วัฒนธรรมการบริหารงานแบบใช้อำนาจ ผู้บริหารที่ใช้อำนาจสั่งการโดยไม่เปิดโอกาสให้พนักงานแสดงความคิดเห็นหรือมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ เป็นต้น
5. การจัดการปัญหาของผู้นำ
ผู้นำที่ไม่สามารถจัดการปัญหาได้อย่างเหมาะสม เด็ดขาด และเป็นกลาง จะทำให้พนักงานรู้สึกถึงความไม่พอใจและไม่เท่าเทียมในผลการตัดสินใจ ซึ่งมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ในองค์กร บรรยากาศในการทำงาน และคุณภาพของผลงาน
การบริหารความขัดแย้งคืออะไร?
การบริหารความขัดแย้ง (Conflict Management) คือ กระบวนการที่ใช้ในการจัดการและแก้ไขปัญหา ความขัดแย้ง ระหว่างบุคคลกับบุคคล บุคคลกับกลุ่ม หรือบุคคลกับองค์กร เพื่อคลี่คลาย เปลี่ยนแปลง และฟื้นฟูสถานการณ์ให้กลับสู่บรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ หรือสร้างสภาพแวดล้อมใหม่ให้ดีกว่าเดิม
ดังนั้น การบริหารความขัดแย้ง จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุก ๆ องค์กรควรให้ความสำคัญ เพราะสามารถช่วยลดผลกระทบและความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อมีปัญหา ความขัดแย้ง รวมถึงมีส่วนช่วยให้องค์กรพัฒนา เติบโต เดินหน้าไปอย่างแข็งแรงและยั่งยืน
5 วิธีสร้างทีมที่แข็งแกร่งด้วยการบริหารความขัดแย้ง
1. สื่อสารกันอย่างตรงไปตรงมา
การบริหารความขัดแย้ง วิธีแรก คือ การสร้าง วัฒนธรรมองค์กร ให้สามารถสื่อสารกันได้อย่างตรงไปตรงมา ทั้งการสื่อสารระหว่างบุคคลกับบุคคล บุคคลกับกลุ่ม และบุคคลกับองค์กร องค์กรและผู้นำควรสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้พนักงานภายในองค์กรสามารถแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างอิสระ โดยรับฟังอย่างปราศจากอคติและไม่ตัดสิน
การสื่อสารกันอย่างตรงไปตรงมา จะช่วยให้ทุกคนสามารถเปิดเผยความรู้สึกของตนเองออกมา กล้าพูดถึงประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างตรงประเด็น ทำให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงประเด็น
2. เลือกวิธีการแก้ปัญหาที่เป็นกลาง
การบริหารความขัดแย้ง ที่เหมาะสม ผู้นำควรเลือกวิธีการแก้ปัญหาที่เป็นกลางและยุติธรรมสำหรับทุกคนในทีม ต้องพิจารณา เจรจา ไกล่เกลี่ย และตัดสินใจเลือกวิธีแก้ปัญหาอย่างรอบคอบ ยุติธรรม ไม่เอนเอียงไปทางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ใช้กระบวนการเจรจาเพื่อหาจุดตรงกลางที่ทุกคนยอมรับได้ร่วมกัน เพราะหากสมาชิกภายในทีมรู้สึกว่าผลการตัดสินไม่เป็นธรรม จะสร้าง ความขัดแย้ง ทำให้ความสัมพันธ์ของสมาชิกเปลี่ยนไปในทางลบ
3. แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างชัดเจน
การแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างชัดเจน จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้สมาชิกภายในทีมรับรู้และเข้าใจหน้าที่ความรับผิดชอบของตนเอง รวมถึงรับทราบหน้าที่ความรับผิดชอบของคนอื่น ซึ่งจะช่วยให้การทำงานเป็นไปตามแผนการที่วางไว้และช่วยลดความไม่พอใจซึ่งกันและกันในการทำงาน อันเป็นสาเหตุของการเกิด ความขัดแย้ง และเป็นหนึ่งในวิธี การบริหารความขัดแย้ง ที่ดี
4. มอง ความขัดแย้ง เป็นโอกาสในการพัฒนา
ความขัดแย้ง เป็นอีกหนึ่งโอกาสที่จะช่วยให้เราเติบโตอย่างก้าวกระโดด หากเปิดใจเรียนรู้ต้นกำเนิดของปัญหา ความขัดแย้ง ที่เกิดขึ้น เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงพร้อมทำความเข้าใจตัวตนของคนอื่นด้วยใจเป็นกลางและปราศจากอคติ สิ่งเหล่านี้จะเป็นอีกหนึ่งส่วนที่จะช่วยให้ความเป็น team work พัฒนาไปอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
5. เสริมสร้างความสัมพันธ์ภายในทีม
การเสริมสร้างความสัมพันธ์ภายในทีมให้เข้มแข็ง จะช่วยลดปัญหา ความขัดแย้ง ภายในทีมได้ดีขึ้น เพราะเมื่อมีความเชื่อมั่น ความเชื่อใจ ความไว้วางใจ ในตัวสมาชิกภายในทีม จะช่วยเสริมสร้างให้ team work แข็งแกร่งมากขึ้น สามารถสื่อสารกันได้อย่างตรงไปตรงมา และเมื่อมีปัญหาจะสามารถขจัด ความขัดแย้ง เหล่านั้นออกไปได้อย่างรวดเร็ว โดย HR ควรให้ความสำคัญในการจัดกิจกรรมเพื่อมเสริมสร้างความเป็น team work เพื่อช่วยพัฒนาความสนิทใจ ความสัมพันธ์ และสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรในการทำงาน
BASE Playhouse หวังว่าบทความที่นำมาฝากในวันนี้ จะช่วยให้หลาย ๆ คนเข้าใจปัญหาของ ความขัดแย้ง และมองหาการใช้ประโยชน์จาก ความขัดแย้ง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาความสัมพันธ์ของสมาชิกภายในองค์กรให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข พัฒนาองค์กรให้มีความเข้มแข็งและเติบโตอย่างยั่งยืน
หากองค์กรใดกำลังมองหากิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างความเป็น team work ทาง BASE Playhouse มีหลักสูตร People Manager in Action ปรึกษาเราได้ฟรีที่ 0941914626 หรือกรอกข้อมูลเพื่อติดต่อกลับง่าย ๆ ที่นี่
อ้างอิงจาก
การบริหารความขัดแย้ง (Conflict Management) 5 รูปแบบ เมื่อพนักงานมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน, HREX Asia
ความขัดแย้ง (Conflict) มีประโยชน์มากกว่าที่คิด, Hanky House