เกมธุรกิจไม่ใช่ดวง ! อาวุธลับชนะคู่แข่ง ด้วยกลยุทธ์ Winning Zone
เรียนรู้กลยุทธ์ Winning Zone เพื่อชนะคู่แข่งในเกมธุรกิจ วิเคราะห์จุดแข็ง โอกาส และภัยคุกคาม เพื่อวางแผนธุรกิจอย่างชาญฉลาด ไม่ใช่แค่เรื่องของโชค แต่เป็นศาสตร์และศิลป์ในการบริหารจัดการ
กลยุทธ์ Winning Zone: อาวุธลับชนะคู่แข่งในเกมธุรกิจ
การทำธุรกิจในปัจจุบันเปรียบเสมือนการเล่นเกมที่มีการแข่งขันสูง คุณต้องวิเคราะห์สถานการณ์ตลาด คู่แข่ง และจุดแข็งของตัวเองให้ออกเพื่อที่จะชนะในเกมนี้ได้ วันนี้เรามาทำความรู้จักกับกลยุทธ์ที่จะช่วยให้คุณมีโอกาสชนะคู่แข่งได้มากขึ้น นั่นก็คือ "Winning Zone"
Winning Zone คืออะไร?
Winning Zone เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้เราวิเคราะห์จุดแข็งและโอกาสในการชนะคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแบ่งออกเป็น 3 วงหลัก:
1. สิ่งที่ลูกค้าต้องการ (What Customers Want)
2. สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุด (What We Do Best)
3. สิ่งที่คู่แข่งทำได้ดีที่สุด (What Competitors Do Best)
เมื่อนำ 3 วงนี้มาซ้อนทับกัน จะเกิดเป็น 4 โซนย่อยที่สำคัญ ได้แก่:
1. Losing Zone
เป็นโซนที่คู่แข่งทำได้ดีและลูกค้าชอบ แต่เราทำไม่ได้หรือทำได้ไม่ดีเท่า ควรหลีกเลี่ยงการลงทุนในโซนนี้ เพราะมีโอกาสแพ้คู่แข่งสูง
ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเป็นร้านไก่ทอดรายเล็ก ไม่ควรไปแข่งขันโดยตรงกับแบรนด์ใหญ่อย่าง KFC หรือ McDonald's เพราะคุณอาจไม่มีทรัพยากรมากพอที่จะสู้ได้
2. Winning Zone
เป็นโซนที่เราเก่งที่สุด ลูกค้าต้องการมากที่สุด และคู่แข่งสู้เราไม่ได้ นี่คือโซนที่เราควรทุ่มเทและลงทุนให้มากที่สุด
ตัวอย่างที่ดีคือ Tesla ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่และการออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ทำให้คู่แข่งรายอื่นตามไม่ทัน
3. Dump Zone
เป็นโซนที่ไม่มีใครต้องการ ทั้งเราและคู่แข่งอาจทำได้ดี แต่ลูกค้าไม่สนใจ ควรให้ความสำคัญน้อยที่สุดหรือทิ้งไปเลย
เช่น ถ้าคุณและคู่แข่งเก่งในการผลิตสินค้าบางอย่าง แต่ไม่มีลูกค้าต้องการ ก็ไม่ควรลงทุนในส่วนนี้
4. Risky Zone หรือ Danger Zone
เป็นโซนที่ลูกค้าต้องการ ทั้งเราและคู่แข่งทำได้ดีเหมือนกัน ทำให้เกิดการแข่งขันสูงและอาจนำไปสู่สงครามราคา (Price War) ควรระมัดระวังในการลงทุน
ตัวอย่างเช่น ตลาดข้าวกะเพราหรือกาแฟ ที่มีผู้ขายจำนวนมากและลูกค้ามักตัดสินใจซื้อจากราคามากกว่าคุณภาพ
วิธีการนำ Winning Zone ไปใช้
1. หาคุณค่าของธุรกิจคุณให้เจอ ทั้งในแง่ functional value และ emotional value
2. ระบุคู่แข่งที่แท้จริงของคุณ (อาจไม่ใช่ธุรกิจประเภทเดียวกัน แต่เป็นผู้ที่ให้คุณค่าคล้ายกัน)
3. วิเคราะห์ว่าอะไรคือสิ่งที่คุณชนะและแพ้คู่แข่ง
4. ลงทุนในสิ่งที่คุณชนะ และพยายามหลีกเลี่ยงหรือให้ความสำคัญน้อยลงกับสิ่งที่คุณแพ้
ข้อควรระวัง
- ต้องหาให้เจอจริงๆ ว่าลูกค้าคาดหวังอะไรจากคุณ และอะไรที่ทำให้ลูกค้ารักและผูกพันกับสิ่งที่คุณมอบให้
- ตลาดและพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา คุณต้องปรับ Winning Zone ของคุณอยู่เสมอ
- อย่าทำ Winning Zone แค่ครั้งเดียวแล้วจบ ต้องกลับมาตรวจสอบเป็นระยะว่าคุณยังชนะคู่แข่งอยู่จริงหรือไม่
Winning Zone เป็นเครื่องมือกลยุทธ์ที่ช่วยให้คุณวิเคราะห์จุดแข็งและโอกาสในการชนะคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้คุณเลือกลงทุนในสิ่งที่มีโอกาสชนะสูง และหลีกเลี่ยงการสูญเสียทรัพยากรไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น ลองนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจของคุณดูนะคะ แล้วคุณจะพบว่าการทำธุรกิจนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับดวงอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของการวิเคราะห์และวางกลยุทธ์อย่างชาญฉลาด