Generative AI มีอะไรบ้าง? 5 เครื่องมือที่จะทำให้การทำงานของคุณง่ายกว่าที่เคย

ในบทความนี้ BASE Playhouse จะชวนทุกคนมาอัปเดตเทรนด์ 2025 ก่อนใคร ว่าในยุคเทคโนโลยีที่โลกก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วแบบไม่หยุดพัก ตอนนี้ Generative AI มีอะไรบ้างที่จะช่วยให้ชีวิตการทำงานของคุณสะดวกสบายกว่าที่เคย ถ้าพร้อมแล้ว อย่ามัวแต่เสียเวลา เราไปดูพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า!

อัปเดตเทรนด์ 2025 Generative AI มีอะไรบ้าง?

วันนี้ BASE Playhouse จะพาทุกคนมาอัปเดตข้อมูลข่าวสารวงการเทคโนโลยีอย่างละเอียด ในทอปปิกที่ว่าด้วยเรื่อง เทรนด์ปี 2025 Generative AI มีอะไรบ้างนะ? ถ้าอ่านจบทุก ๆ คนสามารถนำความรู้เหล่านี้ไปประยุกต์ใช้เป็นตัวช่วยในการทำงาน รับรองว่าการทำงานต้องสะดวกสบาย ง่ายดาย และมีประสิทธิภาพกว่าที่เคยอย่างแน่นอน

1. Text Generation

Generative AI Tool ประเภทแรก คือ Text Generation หรือการสร้างข้อความ เป็นการใช้ Generative AI ในการสร้าง “ข้อความ” ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบทความ อีเมล จดหมาย บทละคร รวมไปถึงงานเขียนประเภทอื่น ๆ ก็สามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้เช่นกัน

Text Generation เป็น Generative AI ที่ใช้เทคโนโลยี Deep Learning ในการประมวลผลลักษณะภาษา โครงสร้างประโยค ไวยากรณ์ ความหมายของคำศัพท์ต่าง ๆ และรูปแบบการเขียนของมนุษย์ ทำให้สามารถโต้ตอบ Prompt หรือข้อความคำสั่งที่เราป้อนเข้าไปได้อย่างเป็นธรรมชาติราวกับมนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งสามารถเป็นตัวช่วยในการทำงานได้ตั้งแต่การเช็กไวยากรณ์ ปรับโครงสร้างประโยค เรียบเรียงประโยคให้สวยงาม ไปจนถึงการสร้างสรรค์งานเขียนใหม่ ๆ ในการทำคอนเทนต์ลงโซเชียลมีเดีย

Generative AI ตัวอย่างสำหรับ Text Generation คือ “ChatGPT” เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่พูดไปใคร ๆ ก็ต้องรู้จักอย่างแน่นอน เพราะเป็น Generative AI Tool ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในยุคสมัยนี้ แถมยังเป็น Text Generation เจ้าแรก ๆ ที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่ง ChatGPT สามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่ยุ่งยากและซับซ้อนให้ออกมาเข้าใจง่ายได้เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น สามารถจับใจความสำคัญ แยกแยะประเด็น และเรียบเรียงออกมาได้เป็นธรรมชาติเสมือนมนุษย์ รวมถึงทำหน้าที่เป็น Search Engine สำหรับหาข้อมูลเชิงลึกต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานควรตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้งก่อนนำข้อมูลไปใช้งานจริง เพื่อเป็นการป้องกันข้อผิดพลาด

2. Image Generation

Generative AI Tool ประเภทที่สอง คือ Image Generation หรือการสร้างรูปภาพ เป็น Generative AI Tool ที่มีระบบการทำงานคล้าย Text Generation แต่สิ่งที่แตกต่างกันออกไปคือ Image Generation จะเชี่ยวชาญด้านการสร้าง “รูปภาพ” เป็นพิเศษ เพราะถูกพัฒนาขึ้นโดยการรวบรวมข้อมูลรูปภาพจำนวนมาก จนฉลาดพอที่จะสามารถดีไซน์และดัดแปลงออกมาเป็นรูปภาพใหม่ ๆ ตาม Prompt หรือชุดข้อมูลคำสั่งที่ป้อนเข้าไป

Image Generation สามารถนำไปเป็นตัวช่วยดี ๆ สำหรับการทำงานของมนุษย์สายศิลปะหรือสายครีเอทีฟที่ต้องสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ช่วยสร้างแรงบันดาลใจสร้างสรรค์ผลงาน โดย Image Generation สามารถสร้างรูปภาพได้ทั้งภาพวาด ภาพสมจริง ไปจนถึงภาพ 3 มิติ

แล้ว Image Generation ของ Generative AI มีอะไรบ้าง? วันนี้ BASE Playhouse ขอแนะนำ “DALL-E” เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จากบริษัท OpenAI (เจ้าเดียวกับ ChatGPT) สามารถสร้างสรรค์รูปภาพตามคำสั่งที่ป้อนได้อย่างรวดเร็ว แม้คำสั่งนั้นจะเป็นการตั้งโจทย์ที่เหนือกว่าจะจินตนาการได้ก็ตาม

3. Design Generation

Generative AI Tool ประเภทที่สาม คือ Design Generation หรือการสร้างการออกแบบ เป็น Generative AI สำหรับใช้ในการ “ออกแบบ” ทั้งการออกแบบกราฟิก การออกแบบผลิตภัณฑ์ การออกแบบเว็บไซต์ การออกแบบแอปพลิเคชัน ไปจนถึงการออกแบบเกมก็สามารถทำได้เช่นกัน

Design Generation เป็น Generative AI ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยใช้เทคโนโลยี Machine Learning ในการออกแบบหรือสร้างสรรค์ผลงานศิลปะใหม่ ๆ ตามข้อความคำสั่งหรือ Prompt ที่ผู้ใช้งานป้อนเข้าสู่ระบบ หลังจากนั้นสักครู่ Design Generation ก็จะประมวลผลงานออกมาให้อย่างตรงใจ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความละเอียดของคำสั่งที่เราป้อนด้วยนะ) ภายในพริบตาเดียว ไม่ว่าจะอินโฟกราฟิก โปสเตอร์ แผ่นพับ พรีเซนเทชัน หรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีภาพอยู่ในหัวแต่ดันออกแบบไม่เก่ง Generative AI เอาอยู่หมด

แล้ว Design Generation ของ Generative AI มีอะไรบ้าง? BASE Playhouse ขอนำเสนอ “Designs.AI” เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับออกแบบกราฟิกโดยเฉพาะ แค่เพียงป้อนชุดคำสั่งลงไปก็จะได้ผลงานตามที่ต้องการ นอกจากนี้ Designs.AI ยังสามารถปรับแต่งและแก้ไขรูปภาพได้ง่าย ๆ ด้วยเครื่องมือภายในเว็บไซต์ ไม่ว่าจะต้องนำเสนองานเมื่อไหร่ก็หายห่วง

4. Speech Generation

Generative AI Tool ประเภทที่สี่ คือ Speech Generation หรือการสร้างเสียงพูด เป็นการใช้ Generative AI ในการสร้าง “เสียงพูด” ให้ออกมาเป็นธรรมชาติราวกับมนุษย์คนหนึ่ง สามารถกำหนดโทนเสียงได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเสียงผู้ชาย เสียงผู้หญิง เสียงเด็ก หรือเสียงผู้ใหญ่ ก็สามารถเลือกได้ตามสะดวก 

Speech Generation เป็น Generative AI ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยใช้ Machine Learning เช่นเดียวกับประเภทที่ผ่านมา โดยใช้วิธีการแปลงข้อความเป็นเสียง หรือ Text-to-Speech ซึ่งในปัจจุบัน องค์กรจำนวนมากได้นำ Speech Generation ไปใช้สำหรับการทำงานหลาย ๆ ภาคส่วนของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น “การทำ Audio Book” สำหรับเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ขององค์กร ทั้งความเป็นมาของธุรกิจ ประวัติผู้บริหาร หรือรายละเอียดของสินค้า นำมาเป็น “ผู้ช่วยแบบ Voice Assistant” อัดสคริปต์ต่าง ๆ เพื่อเป็นตัวช่วยสำหรับทีมบริการลูกค้า สำหรับสายคอนเทนต์ก็สามารถใช้ “ลงเสียงพากย์” สำหรับคลิปวิดีโอ สื่อโฆษณา หรือภาพยนตร์ ไปจนถึง “การสร้างเสียงตอบรับอัตโนมัติ” เพื่อให้บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง

และหากใครยังนึกภาพไม่ออกว่า Speech Generation ของ Generative AI มีอะไรบ้าง? และเป็นแบบไหน? ให้ทุกคนลองนึกถึง “Siri” ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของบริษัท Apple ดู นั่นก็นับว่าเป็นหนึ่งใน Generative AI เหมือนกันนะ

5. Code Generation

Generative AI Tool ประเภทสุดท้าย คือ Code Generative หรือการสร้างโค้ด เป็นการใช้ Generative AI ในการสร้าง “โค้ด” เพื่อให้เกิดความแม่นยำและความรวดเร็ว เป็นหนึ่งในตัวช่วยสำหรับอำนวยความสะดวกสบายให้กับการทำงานของสาย Development สาย IT รวมถึงสายวิศวกรรมต่าง ๆ

Code Generative เป็น Generative AI Tool ที่ถูกพัฒนาขึ้นจาก Large Language Model (LLM) ซึ่งทำหน้าที่ในการประมวลผลจากชุดข้อความคำสั่งหรือ Prompt ที่ผู้ใช้งานป้อนเข้าสู่ระบบว่าต้องการผลลัพธ์แบบไหน จากนั้น AI ก็จะ Generate ชุดโค้ดตามโจทย์ที่เราตั้งไว้ออกมา

ข้อดีของ Code Generation คือ สามารถสร้างโค้ดได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่ป้อนคำสั่งลงไป รวมถึงสามารถตรวจสอบจุดบกพร่องและวิเคราะห์ข้อผิดพลาดของโค้ดได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดความผิดพลาดและประหยัดเวลาในการทำงาน เหมาะสำหรับโปรแกรมเมอร์ นักออกแบบเว็บไซต์ นักออกแบบฐานข้อมูล รวมถึงนักออกแบบระบบอื่น ๆ ก็สามารถนำไปใช้งานได้เช่นกัน

แล้ว Code Generation ของ Generative AI มีอะไรบ้าง? BASE Playhouse ขอนำเสนอ “OpenAI Codex” ซึ่งเป็น Generative AI ที่มีความสามารถในการสร้างโค้ดจากคำสั่งที่เป็นภาษาของมนุษย์ โดยได้รับการฝึกฝนจากการเรียนรู้โค้ดโปรแกรมจำนวนมากที่มีอยู่บนอินเทอร์เน็ต รวมถึงโค้ดของภาษาโปรแกรมที่หลากหลาย ตั้งแต่ Python Java JavaScript ไปจนถึงภาษาซี แม้จะป้อนคำสั่งเป็นข้อความภาษามนุษย์ธรรมดา ๆ OpenAI Codex ก็สามารถสร้างโค้ดให้คุณได้

Generative AI Tool มีประโยชน์อย่างไร?

ในยุคสมัยแห่งเทคโนโลยี ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เจอแต่องค์กรที่นำ Generative AI Tool เข้ามาใช้ในการทำงานเต็มไปหมดจนกลายเป็นเครื่องมือที่มีความจำเป็นอย่างมาก แต่ถ้าองค์กรไหนยังลังเลหรือเกิดความสงสัยว่าประโยชน์ของ Generative AI มีอะไรบ้าง BASE Playhouse จะมาเล่าให้ทุกคนฟังเอง

1. เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

แน่นอนว่าสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดสำหรับการเข้ามาของ Generative AI คือ ประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น นั่นก็เพราะว่า Generative AI สามารถจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีความยุ่งยากและซับซ้อนให้ง่ายขึ้นได้ในระยะเวลาอันสั้น รวมถึงช่วยลดภาระงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่จำเป็น เช่น การส่งอีเมล การคัดกรองไฟล์ข้อมูล การแปลภาษา เป็นต้น

2. สร้างกลยุทธ์การตลาดให้โดนใจลูกค้า

ประโยชน์ของ Generative AI Tool อย่างต่อมา คือ ช่วยสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดให้โดนใจลูกค้า เนื่องจาก Generative AI สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าได้อย่างละเอียด ทำให้สามารถสร้างผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างทันท่วงที สร้างประสบการณ์ที่ดีและความพึงพอใจให้กับลูกค้า

3. สร้างความปลอดภัยทางไซเบอร์

ถ้าถามว่าประโยชน์ของ Generative AI มีอะไรบ้าง? การสร้างความปลอดภัยทางไซเบอร์ เป็นหนึ่งสิ่งที่หลาย ๆ คนไม่ค่อยนึกถึง แต่ Generative AI Tool สามารถทำได้จริง! เนื่องจาก Generative AI ผ่านการเรียนรู้ (และยังเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่อง) จนกลายเป็นสิ่งไม่มีชีวิตที่มีความฉลาดราวกับมนุษย์ (หรืออาจจะมากกว่ามนุษย์เสียอีก) ซึ่งสามารถวิเคราะห์ความปลอดภัยของข้อมูล รวมถึงคาดการณ์ความเสี่ยงและผลกระทบในอนาคตได้ โดยข้อมูลการวิเคราะห์เหล่านี้ทำให้ “ทีมงานด้านการรักษาความปลอดภัยทางระบบไซเบอร์” ขององค์กร เตรียมตัวพร้อมรับมือกับปัญหาภัยคุกคามที่มีต่อองค์กรอยู่เสมอ

จบลงไปแล้วสำหรับการไขข้อสงสัยว่า “ในปี 2025 เทรนด์ของ Generative AI มีอะไรบ้าง?” รวมถึง 3 ประโยชน์ของ Generative AI Tool ที่จะทำให้องค์กรของคุณทำงานง่ายขึ้น BASE Playhouse หวังว่าข้อมูลที่นำมาฝากกันในวันนี้ จะช่วยให้หลาย ๆ องค์กรนำไปปรับใช้กับการทำงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและทำให้องค์กรสามารถเติบโตไปสู่เป้าหมายได้อย่างมั่นคง

อ้างอิงจาก

Generative AI คืออะไร? ทำความรู้จักประเภทและประโยชน์ที่คุณไม่ควรพลาด, NERD OPTIMIZE

รวม Generative AI ทั้ง 7 หมวดหมู่สำหรับการใช้งานในยุคดิจิทัล, Popticles

หลักสูตรแนะนำ

Generative AI in Action

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้เร็วขึ้น ด้วยพลังสร้างสรรค์จาก AI

หลักสูตรนี้จะพาคุณไปเรียนรู้ตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน กลไกการทำงาน กระบวนการคิด การฝึกฝนเทคนิคการออกแบบคำถามหรือคำสั่ง ให้คุณได้ฝึกทักษะแห่งโลกอนาคต ที่นำไปใช้งานได้จริง ตลอดจนรู้จักวิธีเลือก AI Tools ที่ตอบโจทย์สำหรับคุณ

คอร์สนี้เหมาะกับ

'Generative AI in Action' เหมาะสำหรับบุคลากรในทุกระดับขององค์กร

สิ่งที่ผู้เรียนจะได้รับ

• Deep Understanding - เข้าใจ concept กลไกการทำงานของ Generative AI และ use-case การนำไปใช้ในโลกธุรกิจ
• Creativity Unlocked - ได้ฝึกเทคนิคการสั่งงาน AI ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อปลดล็อกกระบวนการคิด
• Enhanced Efficiency - เพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกับ AI อย่างมีประสิทธิภาพ

รายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติม > อ่านที่นี่

ติดต่อปรึกษา BASE Playhouse ฟรี! โทร 094-191-4626 หรือกรอกข้อมูลเพื่อติดต่อกลับ ที่นี่

‍