เคล็ดลับการทำสไลด์ง่าย ๆ แต่ได้ผลลัพธ์อย่างมืออาชีพ

หากจะพูดถึงหัวใจสำคัญของการนำเสนอ (Presentation) ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอไอเดียให้กับลูกค้า สรุปผลประกอบการเพื่อรายงานให้กับหัวหน้า หรือสัมภาษณ์งานกับเหล่า HR สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือ การทำสไลด์ หรือ Slide Design ให้มีความสวยงาม น่าสนใจ และเข้าใจง่าย เพราะการนำเสนอที่ดี ไม่ใช่แค่เพียงนำข้อมูลมารวบรวมและพูดให้ผู้ฟังรับทราบ แต่เป็นการบอกเล่ารายละเอียดโดยมีจุดประสงค์ที่ชัดเจน เมื่อผู้ฟังรับฟังแล้วจะต้องเปลี่ยนแปลงความคิด เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม หรือตัดสินใจมอบโอกาสบางสิ่งบางอย่างให้กับผู้พูด

สไลด์จึงนับว่าเป็น “ตัวกลาง” ในการเชื่อมโยงความเข้าใจของการอธิบายรายละเอียดระหว่างผู้พูดและผู้ฟังให้ตรงกัน อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่จะทำให้การนำเสนอหรือการสื่อสารของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยดึงดูดความสนใจจากผู้ฟังในขณะกำลังนำเสนอข้อมูลที่มีเนื้อหาปริมาณมาก เพิ่มความน่าจดจำให้กับผลงาน และยกระดับความเป็นมืออาชีพในตัวคุณ

4 ตัวช่วยเด็ด! สร้าง Slide Design ได้อย่างมือโปร

1. PowerPoint

เครื่องมือทำสไลด์ฟรียอดนิยมที่พูดไปไม่มีใครไม่รู้จัก นั่นก็คือ PowerPoint ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีชื่อเสียงและใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยสามารถสร้างงานนำเสนอใหม่หรือนำเข้าไฟล์ที่มีอยู่แล้วเพื่อนำมาแก้ไขและทำสไลด์ต่อก็ได้เช่นกัน PowerPoint มีเครื่องมือในการทำสไลด์สำหรับการนำเสนออย่างครบครัน สามารถเพิ่มข้อความ รูปภาพ กราฟิก และวิดีโอ ได้ตามต้องการ รวมไปถึงสามารถเพิ่มเอฟเฟ็กต์ในการนำเสนอ เลือกลำดับการแสดงตัวอักษรและรูปภาพ เพื่อเสริม Slide Design ให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

2. Google Slides

เครื่องมือต่อมา คือ Google Slides หนึ่งในบริการจาก Google ที่แม้จะไม่ได้มีลูกเล่นหวือหวาเท่าเครื่องมือตัวอื่น ๆ แต่จุดเด่นของ Google Slides อยู่ที่การใช้งานออนไลน์ร่วมกับคนอื่น เปิดโอกาสให้เพื่อน ๆ ได้เข้ามาช่วยกับสร้างสรรค์ผลงานในการทำสไลด์ไปพร้อม ๆ กัน เหมาะสำหรับการทำสไลด์แบบเรียบง่ายในชั่วโมงเร่งด่วน

3. PresentationGo

PresentationGo แพลตฟอร์มออนไลน์ที่เป็นแหล่งรวมเทมเพลตและสไลด์สำหรับนำไปแก้ไขต่อใน PowerPoint หรือ Google Slides เพื่อปรับแต่งให้เข้ากับเนื้อหาที่คุณต้องการนำเสนอได้อย่างง่ายดาย โดยจุดเด่นของ PresentationGo คือ มีเทมเพลตที่สวยงามและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Presentation Slide, Charts & Diagrams, Tables, Timeline หรือ Planning โดยไม่ต้องออกแบบเองให้เสียเวลา

4. Canva

เครื่องมือทำสไลด์ยอดฮิตที่มาแรงที่สุดในปัจจุบัน จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก Canva เพราะเป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่าย มีเทมเพลตสวย ๆ ให้เลือกหลากหลายสไตล์ สามารถนำมาตกแต่งเพิ่มเติมได้ตามความต้องการ เพราะมีเครื่องมืออำนวยความสะดวกอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะปรับฟอนต์ ปรับสี สร้างตาราง หรือสร้างกราฟ รวมไปถึงสารพัดของตกแต่งที่สามารถเลือกใช้ได้ทุกแนว จะทำสไลด์แบบรีบด่วนหรือปรานีต Canva เอาอยู่ครบจบทุกความต้องการ

ทำสไลด์ใน Canva ให้น่าประทับใจ ใคร ๆ ก็ SAY YES!

การทำสไลด์นำเสนอที่ดี หรือ Effective Slide Design เป็นการออกแบบสไลด์ที่นำเสนอข้อมูลได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ แต่ยังคงไว้ซึ่งความสวยงาม น่าติดตาม และเข้าใจง่าย เพื่อไม่ให้ผู้ฟังเกิดความเบื่อหน่ายจนจับใจความสำคัญของการนำเสนอไม่ได้ โดยอาศัยเทคนิคต่าง ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างความน่าสนใจเพื่อให้ข้อมูลที่ต้องการนำเสนอโดดเด่นเหนือใคร พร้อมทั้งดึงดูดใจของผู้ฟังได้เป็นอย่างดี แต่จะทำอย่างไรให้ Slide Design ออกมาน่าสนใจ ไม่ว่าใคร ๆ ก็อยาก SAY YES!  ในบทความนี้ BASE Playhouse มีเคล็ดลับดี ๆ มาบอก เตรียมตัวจดกันได้เลย

1. ความเรียบง่าย (Simplicity)

เคล็ดลับข้อแรก คือ ความเรียบง่าย ซึ่งสำหรับการทำสไลด์ใน Canva หมายถึง การ Slide Design ให้ภาพรวมของข้อมูลมีความเข้าใจง่าย กระชับ และไม่ซับซ้อน หลีกเลี่ยงการใส่ข้อมูลหรือ Elements ที่มากจนเกิดไปโดยไม่จำเป็น

1.1 การวาง Layout

ตามธรรมชาติของมนุษย์ มักจะอ่านข้อความจากทางซ้ายมาทางขวา และอ่านข้อความจากข้างบนลงข้างล่าง การวาง Layout ให้เหมาะสม จึงเป็นสิ่งต้องคำถึงสำหรับการทำสไลด์ เพราะจะช่วยนำสายตาของผู้ฟังไปยังส่วนสำคัญของสไลด์ที่ต้องการเน้นย้ำ โดยอาจจะเริ่มจากการเลือกขนาดและสีของฟอนต์ระหว่างหัวข้อกับเนื้อหาให้แตกต่างกัน เพื่อให้ผู้ฟังแยกออกอย่างชัดเจน หรือใช้ทฤษฎี 6 x 6 คือ 6 บรรทัดต่อ 1 สไลด์ เพื่อเน้นส่วนสำคัญของเนื้อหา ทำให้ผู้ฟังไม่เบื่อหน่ายจากการอ่านข้อความยาว ๆ

1.2 การใส่ข้อความสั้น ๆ

การทำสไลด์ให้เรียบง่าย อ่านสบายตา ควรเลือกใส่เพียงข้อความสั้น ๆ กระชับ ชัดเจน และตรงประเด็น หลีกเลี่ยงการยัดรายละเอียดทุกสิ่งทุกอย่างลงไปในสไลด์ เพราะจะทำให้ผู้ฟังประมวลผลสิ่งที่คุณกำลังนำเสนอได้ยากและใช้เวลานาน นอกจากนี้ เนื้อหาที่เยอะเกินไปจะทำให้ผู้ฟังเริ่มอ่านสไลด์แทนที่จะสนใจในสิ่งที่คุณพูด นั่นก็แปลว่าความน่าสนใจในตัวคุณจะหายไป

2. เลือกฟอนต์และสีให้อ่านง่าย (Legibility)

เคล็ดลับข้อที่สองสำหรับการทำสไลด์ให้ดึงดูดใจ คือ การเลือกฟอนต์และสีให้อ่านง่าย เพราะจะช่วยให้ผู้ฟังอ่านง่าย สบายตา และไม่ลำบากในการทำความเข้าใจ 

2.1 การเลือกฟอนต์

ในการทำสไลด์ หรือ Slide Design การเลือกฟอนต์ที่อ่านง่ายจะทำให้ผู้ฟังไม่ต้องเพ่งสายตา ควรเลือกฟอนต์ที่ตัวอักษรชัดเจน ไม่ซับซ้อน ไม่มีลวดลายเยอะมากเกินไป เช่น Arial, Sans-Serif, Prompt, Poppins เป็นต้น และเลือกขนาดฟอนต์ที่เหมาะสม ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป โดยฟอนต์ของหัวข้อไม่ควรเล็กกว่า 36pt และฟอนต์ของเนื้อหาควรอยู่ที่ 24pt เพื่อให้สามารถอ่านได้จากระยะไกล นอกจากนี้ ควรเว้นระยะห่างของบรรทัดให้อ่านสะดวกและดูไม่แออัดจนเกินไป

2.2 การเลือกสี

การเลือกสีที่มีความคอนทราสต์ (Contrast) กันสูงระหว่างตัวอักษรและพื้นหลัง จะช่วยให้ข้อความโดดเด่นออกมาและง่ายต่อการอ่านมากขึ้น หากใช้ตัวอักษรสีอ่อน พื้นหลังควรเป็นสีเข้ม แต่หากใช้พื้นหลังสีเข้ม ตัวอักษรควรเป็นสีอ่อน ตัวอย่างเช่น ตัวอักษร “สีขาว” พื้นหลัง “สีดำ” 

3. ใช้ภาพและกราฟิกประกอบ (Images & Graphics)

เคล็ดลับการทำสไลด์ใน Canva ข้อที่สาม คือ การใช้ภาพและกราฟิกประกอบ จะช่วยให้ผู้ฟังเห็นภาพสิ่งที่เรากำลังนำเสนอได้อย่างชัดเจนมากขึ้น โดยการเลือกภาพ ควรเป็นภาพที่เชื่อมโยงกับเนื้อหาที่กำลังนำเสนอและสร้างแรงดึงดูดให้ผู้ฟังรู้สึกตื่นเต้นและสนใจ ควรเลือกภาพที่จะเสริมเนื้อหาให้โดดเด่น แต่ต้องไม่เบี่ยงเบนความสนใจของผู้ฟังไปจากประเด็นที่ต้องการสื่อสาร และควรระวังเรื่องลิขสิทธิ์ของรูปภาพในการนำมาใช้งานด้วย ส่วนการใช้กราฟิกประกอบ เช่น กราฟแท่ง กราฟเส้น แผนภูมิวงกลม จะช่วยให้เสริมการสื่อสารข้อมูลที่ซับซ้อน ข้อมูลเชิงตัวเลข หรือข้อมูลสถิติให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น 

4. จัดเรียงข้อมูล (Grouping)

เคล็ดลับการทำสไลด์ใน Canva ข้อที่สี่ คือ การจัดเรียงข้อมูล ให้มีความเป็นเอกภาพ (Unity) และเป็นระเบียบเรียบร้อย ควรใส่ใจตั้งแต่การจัดตำแหน่งข้อความและภาพให้สอดคล้องกัน จัดกลุ่มข้อมูลที่เกี่ยวข้อไว้ด้วยกัน เช่น แบ่งหัวข้อก่อนใส่เนื้อหาข้อมูล เพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจง่าย เป็น และรักษาสมดุลของภาพรวม ไม่ให้เอียงไปทางซ้ายหรือขวามากเกินไป รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ จะช่วยยกระดับความเป็นมืออาชีพของการทำสไลด์ 

5. ปิดท้ายให้น่าสนใจ (Engaging Conclusion)

เคล็ดลับการทำสไลด์ใน Canva ข้อสุดท้าย คือ การปิดท้ายให้น่าสนใจ โดยการทำสไลด์หน้าสุดท้ายควรเป็น “การสรุปใจความสำคัญ” ของเนื้อหาที่นำมานำเสนอ เพื่อเป็นการเน้นย้ำความสำคัญให้ผู้ฟังเข้าใจอีกหนึ่งรอบก่อนจบการนำเสนอและช่วยให้ผู้ฟังจดจำได้ในระยะยาว รวมถึง “การตั้งคำถาม” กระตุ้นความคิดของผู้ฟัง เพื่อให้ผู้ฟังตกตะกอนความคิดบางอย่าง ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือการค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติมในอนาคต

‍

เพราะการนำเสนอที่ดีไม่ใช่เพียงแค่เลื่อนสไลด์ให้ผ่าน ๆ ไป การทำสไลด์ให้เรียบง่ายแต่น่าสนใจ จะเป็นตัวช่วยชั้นเลิศที่ช่วยสื่อสารความต้องการของคุณให้ทุกคนได้รับรู้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความประทับใจให้กับผู้ฟัง

‍

หลักสูตรที่แนะนำ

Driving Change with Impactful Presentation Design

ในปัจจุบันที่ข้อมูลในการทำงานมีมากมายมหาศาล ทำให้โจทย์ในการนำเสนอข้อมูลให้จบภายในไม่กี่สไลด์เป็นสิ่งที่สำคัญมากในปัจจุบัน ในคอร์สนี้จะมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างทักษะและความรู้ที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาการนำเสนอและการออกแบบให้น่าสนใจ

คอร์สนี้เหมาะกับ

‘Driving Change with Impactful Presentation Design' เหมาะสำหรับบุคลากรระดับพนักงานทั่วไป และหัวหน้างาน

สิ่งที่ผู้เรียนจะได้รับ

• ผู้เรียนจะได้เรียนรู้และฝึกฝนการออกแบบสไลด์นำเสนอ เริ่มตั้งแต่การกำหนดวัตถุประสงค์ของการนำเสนอ
• ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ทักษะการจำลองผู้ฟัง (Audience Persona) เพื่อนำมาใช้จัดระเบียบเนื้อหาในการนำเสนอสไลด์ให้น่าสนใจ พร้อมทั้งการออกแบบ Visual ที่ช่วยให้สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• สามารถระบุลักษณะและวิเคราะห์ความต้องการของผู้รับสารหรือผู้ตัดสินใจในที่ประชุมได้

รายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติม > อ่านที่นี่

ติดต่อปรึกษา BASE Playhouse ฟรี! โทร 094-191-4626 หรือกรอกข้อมูลเพื่อติดต่อกลับ ที่นี่

‍

อ้างอิงจาก

9 เทคนิคสร้างสรรค์ Slide ให้ Presentation ของคุณเหมือนมืออาชีพ, NMG

ปั้นสไลด์ให้ปัง 4 เครื่องมือสร้างพรีเซนเทชันสุดคูล…ดูโปรฯ, THE GEN C

‍