หยุดฟุ่มเฟือย! วิธีการเก็บเงินแบบคนฉลาด ง่าย ๆ แต่ได้ผลจริง
สิ้นเดือน เหมือนสิ้นใจ ปัญหาชีวิตที่ชาวมนุษย์เงินเดือนต้องเคยประสบพบเจอกัน (แทบ) ทุกคน แต่ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไป เพราะวันนี้ BASE Playhouse มี วิธีการเก็บเงิน ง่าย ๆ สำหรับมือใหม่หัดออมเงิน ที่จะทำให้อยู่รอดตลอดทั้งเดือนและสิ้นเดือนของคุณไม่เศร้าหมองอีกต่อไป!

หยุดฟุ่มเฟือย! วิธีการเก็บเงินแบบคนฉลาด ง่าย ๆ แต่ได้ผลจริง
สิ้นเดือน เหมือนสิ้นใจ ปัญหาชีวิตที่ชาวมนุษย์เงินเดือนต้องเคยประสบพบเจอกัน (แทบ) ทุกคน แต่ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไป เพราะวันนี้ BASE Playhouse มี วิธีการเก็บเงิน ง่าย ๆ สำหรับมือใหม่หัดออมเงิน ที่จะทำให้อยู่รอดตลอดทั้งเดือนและสิ้นเดือนของคุณไม่เศร้าหมองอีกต่อไป!
การออมนั้นสำคัญไฉน ทำไมต้องออมเงิน?
ชีวิตมนุษย์นั้นมีค่าเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นค่าบ้าน ค่ารถ ค่ากิน ค่าอยู่ สารพัดค่าใช้จ่ายที่สวนทางกับรายรับในแต่ละเดือน นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไม วิธีออมเงินอย่างฉลาด จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในการใช้ชีวิต BASE Playhouse จะพามาดูประโยชน์ 3 ข้อ ที่จะทำให้ทุกคนอยากเริ่มเก็บเงินตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป
1. สร้างความมั่นคง
ประโยชน์ข้อแรกของ วิธีออมเงินอย่างฉลาด คือ สามารถสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตมนุษย์เงินเดือนได้เป็นอย่างดี เพราะมีหลักประกันด้านความมั่นคงทางการเงินช่วยปกป้องคุณจากสถานการณ์ฉุกเฉินที่ไม่คาดคิด เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ หรือการตกงานกะทันหัน การมีเงินออมจะช่วยให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากโดยไม่ต้องพึ่งพาการกู้หนี้ยืมสินใด ๆ เปรียบเสมือนการมีฟูกคอยรองรับก่อนเราจะตกกระแทกกับพื้นดิน
นอกจากนี้ วิธีการเก็บเงิน เพื่อสร้างความมั่นคง ยังช่วยทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายต่าง ๆ ของชีวิตที่ตั้งไว้ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้าน การซื้อรถ การศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมในสิ่งที่ชอบ หรือการท่องเที่ยวประเทศในฝัน การออมเงินอย่างตั้งใจและมีวินัย จะสามารถเปลี่ยน “ความฝัน” ให้กลายเป็น “ความจริง” ได้
2. มีอิสรภาพทางการเงิน
วิธีออมเงินอย่างฉลาด นำพาไปสู่เส้นทางแห่งการมีอิสรภาพทางการเงิน เนื่องจากการมีเงินออมที่มากพอจะทำให้คุณไม่เดือดร้อนเรื่องเงินและสามารถตัดสินใจทำสิ่งต่าง ๆ ตามความชอบหรือความต้องการได้อย่างอิสระเสรี ตั้งแต่การเลือกประกอบอาชีพ การเลือกสถานที่ท่องเที่ยว การเลือกงานอดิเรก ไปจนถึงการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยไม่ต้องวิตกกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย
3. สุขภาพจิตดีขึ้น
ประโยชน์ข้อสุดท้ายของ วิธีออมเงินอย่างฉลาด คือ ทำให้สุขภาพจิตดีขึ้น เพราะช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเงิน เช่น ภาระหนี้สินที่ต้องจ่าย ค่าใช้จ่ายรายเดือนที่มากกว่ารายรับ สถานการณ์ฉุกเฉินที่ต้องใช้เงินทันที เป็นต้น วิธีการเก็บเงิน อย่างถูกต้อง จะทำให้เรามีเงินออมมากพอที่จะจัดการปัญหาเหล่านี้ได้ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สามารถใช้เงินในการแก้ปัญหา ได้
การมีเงินเก็บเพียงพอต่อความต้องการในอนาคตและกรณีฉุกเฉิน จะทำให้คุณรู้สึกอุ่นใจ คลายความกังวล สามารถออกไปใช้ชีวิตในแบบที่ตนเองต้องการอย่างมีความสุขและสนุกสนานในทุก ๆ วัน

การวางแผน วิธีบริหารเงิน อย่างปลอดภัย
การวางแผน วิธีบริหารเงิน เป็นขั้นตอนพื้นฐานที่สำคัญมากสำหรับชาวมนุษย์เงินเดือนที่มีรายจ่ายมากมายมหาศาล เพราะจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงให้กับสถานะทางการเงิน ปกป้องเราจากสถานการณ์ฉุกเฉินที่ต้องใช้เงินอย่างไม่คาดคิด ลดความเครียด และทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและสบายใจมากยิ่งขึ้น
การวางแผน วิธีบริหารเงิน ให้มีประสิทธิภาพ หรือเรียกง่าย ๆ ว่า วิธีการเก็บเงิน ให้อยู่ ประกอบไปด้วย 3 องค์ประกอบ ดังนี้
1. กำหนดเป้าหมายทางการเงินให้ชัดเจน
การกำหนดเป้าหมายทางการเงินให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายระยะสั้น (ไม่เกิน 3 ปี) เช่น การเก็บเงินให้ได้ 50,000 ภายใน 1 ปี การเก็บเงินเพื่อซื้อโทรศัพท์มือถือภายใน 6 เดือน เป็นต้น หรือเป้าหมายระยะยาว (3 ปีขึ้นไป) เช่น การเก็บเงินเพื่อการศึกษา การเก็บเงินซื้อบ้าน การเก็บเงินแต่งงาน การเก็บเงินสำหรับเกษียณอายุ เป็นต้น จะช่วยให้เราเห็นภาพอนาคตที่เราต้องการอย่างชัดเจนและนำมาเป็นแรงผลักดันในการตั้งใจเก็บเงินให้ประสบความสำเร็จ
2. การทำบัญชีรายรับ - รายจ่าย
การวางแผน วิธีบริหารเงิน ให้มีประสิทธิภาพ วิธีที่สอง คือ การทำบัญชีรายรับ - รายจ่าย เรื่องง่าย ๆ ที่ทุกคนมักมองข้ามและไม่ให้ความสำคัญ แต่จริง ๆ แล้วนั้น การทำบัญชีรายรับ - รายจ่าย มีประโยชน์อย่างมากในการออมเงิน เพราะช่วยให้เราเห็นภาพรวมการใช้เงินของตัวเองในแต่ละวัน รู้ว่าใช้เงินไปกับอะไรบ้าง และเห็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยวางแผนการใช้เงินในแต่ละเดือนให้เหมาะสม เสริมสร้างนิสัยการใช้เงินที่ดี ตระหนักถึงคุณค่าของเงินก่อนใช้จ่ายอีกด้วย
3. แบ่งเงินเก็บเป็นเงินสำรองฉุกเฉิน
ชีวิตมนุษย์เป็นสิ่งไม่แน่นอน หลาย ๆ ครั้งเราก็ดันเป็นผู้ถูกเลือกให้ประสบพบเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยเฉียบพลันจนต้องเข้าโรงพยาบาล หรือจะเป็นการขับรถชนโดยไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้น การแบ่งเงินเก็บเป็นเงินสำรองฉุกเฉินเมื่อเกิดสถานการณ์ที่ไม่คิดไม่ฝัน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะไม่ทำให้เราต้องมืดแปดด้านยามจำเป็นต้องใช้เงิน
โดย วิธีการเก็บเงิน สำรองไว้ใช้ยามเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ควรสำรองเงินไว้อย่างน้อยประมาณ 6 เท่า จากค่าใช้จ่ายปกติในแต่ละเดือน เพื่อรับประกันความมั่นใจว่า หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจะสามารถผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้ด้วยดี

เริ่มเลยวันนี้! วิธีออมเงินอย่างฉลาด ในปี 2025
“เงินเดือนออกแล้วไปกินอะไรดี?”
“เหนื่อยมาทั้งอาทิตย์ ขอ Shopping ให้รางวัลตัวเองหน่อย”
ความสุขตอนต้นเดือนกลับกลายเป็นความทุกข์ตอนสิ้นเดือน “ทำยังไงก็เก็บเงินไม่ได้สักที” ปัญหาโลกแตกของชาวมนุษย์เงินเดือนที่อยากจะมีเงินเก็บกับเขาบ้าง วันนี้ BASE Playhouse ขอนำเสนอ วิธีการเก็บเงิน อย่างชาญฉลาด สามารถทำง่าย ๆ แต่ได้ผลจริง นั่นก็คือ เทคนิค “50 - 30 - 20”
ก้อนแรก 50% คือ ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นค่าที่อยู่อาศัย ค่าอาหาร ค่าผ่อนรถ ภาระหนี้สิน รวมไปถึงเงินที่ให้ครอบครัวในแต่ละเดือน โดย วิธีการเก็บเงิน ก้อนนี้ จะเก็บเพื่อใช้จ่ายสิ่งที่จำเป็น (Need) ต่อการดำรงชีวิตเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อความต้องการ (Want) ที่ฟุ่มเฟือย ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจใช้เงินก้อนนี้ใช้จ่ายอะไร ต้องพิจารณาว่าเป็นสิ่งที่ “จำเป็น” จริง ๆ เท่านั้น
ตัวอย่างเช่น เงินเดือน 30,000 บาท เก็บเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน 50% นั่นก็คือ 15,000 บาท
ก้อนที่สอง 30% คือ รางวัลสำหรับตัวเอง หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เงินสำหรับใช้จ่ายเพื่อสร้างความสุข เช่น การทานอาหารร้านโปรด การท่องเที่ยว การ Shopping การทำงานอดิเรก เป็นต้น แม้จะเป็นเงินในส่วนที่ใช้จ่ายเพื่อความสุข แต่ควรคิดให้ละเอียดรอบคอบก่อนใช้จ่าย ไม่ใช่ใช้เงินฟุ่มเฟือยตามความต้องการของตนเองเพียงอย่างเดียว
ตัวอย่างเช่น เงินเดือน 30,000 บาท ใช้จ่ายเป็นรางวัลให้ตัวเองหลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งเดือน 30% เท่ากับสามารถใช้เงินได้ 9,000 บาท
ก้อนสุดท้าย 20% คือ เงินออม วิธีการเก็บเงิน สำหรับเป็นเงินออมอย่างเหมาะสม ควรแบ่งเงินออกเป็นก้อน ๆ ตามเป้าหมายของชีวิตที่ตั้งไว้ เช่น เงินสำรองยามฉุกเฉิน 2,000 บาท เงินสำหรับใช้หลังเกษียณ 1,000 บาท เงินสำหรับซื้อรถ 1,000 บาท เงินสำหรับศึกษาต่อต่างประเทศ 2,000 บาท เป็นต้น
ตัวอย่างเช่น เงินเดือน 30,000 บาท เก็บเป็นเงินออม 20% แปลว่าต้องออมเงินเดือนละ 6,000 บาท
การวางแผน วิธีการเก็บเงิน อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากจะสร้างความมั่นคงและสร้างอิสรภาพทางการเงินแล้ว ยังช่วยให้เราสามารถจัดสรรปันส่วนการใช้เงินให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของชีวิต ลดความเครียด ความวิตกกังวลต่อสถานะทางการเงิน และทำให้เราสามารถออกไปใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขในทุก ๆ วัน
อ้างอิงจาก
รู้จักกับประโยชน์ของการออมเงิน เปลี่ยนชีวิตให้ดีในระยะยาว, MAKE by KBank