ใครหมดไฟมาทางนี้! แจกพิกัดที่เที่ยวพักใจ เติมไฟให้วัยทำงาน

“ภาวะหมดไฟ” เป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะกับคนวัยทำงานที่ใช้เวลา 1 ใน 3 ของวันหมดไปกับการทำงาน ยิ่งสำหรับมนุษย์บ้านไกลแล้ว ก็แทบจะกลายเป็น 2 ใน 3 ของวันเลยทีเดียว! แถมบางวันสิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “งาน” ยังถาโถมเข้ามาไม่หยุดจนต้องหอบกลับมาทำต่อที่บ้านอย่างเสียไม่ได้ คิดไปคิดมาแล้วก็หดหู่ใจจนไม่อยากลืมตาตื่นมาใช้ชีวิตในวันพรุ่งนี้เลย

แม้งานหนักจะไม่ทำให้ใครตาย (ในทันที) แต่มนุษย์วัยทำงานเองก็ต้องการการพักผ่อนเหมือนกัน ในบทความนี้ BASE Playhouse จะพาทุกคนไปปล่อยใจกับ 4 สถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่มีเวลาแค่วันเดียวก็เที่ยวได้ ถ้าพร้อมแล้ว ปิดคอม เก็บกระเป๋า แล้วออกไปผจญภัยเพื่อเติมไฟกัน!

ทำงานหนักไปหรือเปล่า? 3 สัญญาณเตือนว่าคุณกำลังหมดไฟ😰

ภาวะหมดไฟ (Burnout Syndromes) คือ ภาวะที่ความเหนื่อยล้าทางอารมณ์อันเกิดจากความเครียด ความกังวล และความกดดัน ในการทำงานที่ค่อย ๆ สะสมกันมาเป็นระยะเวลานาน หากไม่ได้รับการบำบัดหรือการจัดการทางอารมณ์อย่างเหมาะสม จะทำให้คน ๆ นั้นเกิดความรู้สึกหมดพลังกายและพลังใจในการทำงาน เกิดการมองโลกในแง่ลบ ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง รวมถึงส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและร่างกาย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการนำไปสู่โรคต่าง ๆ เช่น โรคเครียด โรคนอนไม่หลับ โรคกระเพราะอาหาร โรคซึมเศร้า เป็นต้น

องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ขึ้นทะเบียนรับรองว่า ภาวะหมดไฟเป็น “โรค” ที่เกิดขึ้นจริงกับผู้คนในยุคปัจจุบัน ซึ่งสาเหตุหลักของภาวะหมดไฟ มักมาจากความเครียดและแรงกดดันที่ได้รับจากการทำงาน ภาระงานที่เยอะเกินกำลัง ชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน รวมถึงการมีปฏิสัมพันธ์ที่ไม่ดีระหว่างเพื่อนร่วมงานหรือบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นเวลานาน ค่อย ๆ สะสมจนทำให้เกิดความเครียดเรื้อรังและหมดไฟในการทำงานในที่สุด

แล้วคุณล่ะ ทำงานหนักเกินไปหรือเปล่า? เช็กตัวเองไปพร้อม ๆ กันกับ 3 สัญญาณเตือนที่บอกว่าคุณควรหาเวลาพักผ่อนได้แล้ว

1. รู้สึกเบื่ออยู่ตลอดเวลา

เช็กลิสต์ข้อแรก “รู้สึกเบื่ออยู่ตลอดเวลา” จะกินข้าวก็เบื่ออาหาร จะนอนก็นอนไม่หลับ จะออกไปเที่ยวก็ไม่อยากไป เล่นเกมก็ไม่สนุก ดูหนังก็อยากจะนอน อยู่บ้านก็อยากออกไปข้างนอก แต่พออยู่ข้างนอกดันอยากกลับบ้านซะงั้น ไม่ว่าจะทำอะไรก็รู้สึกไม่เอนจอย น่าเบื่อไปเสียทุกอย่าง แถมยังรู้สึกเหมือนมีเศษอารมณ์บางอย่างติดค้างอยู่เบื้องลึกภายในใจอีกด้วย ความรู้สึกเหล่านี้นี่แหละเป็นอาการเริ่มต้นของภาวะหมดไฟ

2. ใช้ชีวิตให้ผ่านไปวัน ๆ

เช็กลิสต์ข้อที่สอง “ใช้ชีวิตให้ผ่านไปวัน ๆ” ไม่มีจุดมุ่งหมาย ไม่มีความฝัน ไม่คิดว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ไม่อยากพิชิตความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ไม่อยากทำอะไรนอกจากใช้ชีวิตให้ผ่าน ๆ ไปจะได้ถึงเวลานอนเสียที รู้สึกเหนื่อยง่าย หมดกำลังใจ แบตเตอรี่ชีวิตติดลบยิ่งกว่าศูนย์ ความคิดเดียวที่มีอยู่ในหัวตอนนี้คือ “แค่ใช้ชีวิตให้ผ่านวันนี้ไปได้ก็ดีมากแล้ว”

3. อยากอยู่คนเดียว

เช็กลิสต์ข้อสุดท้าย “อยากอยู่คนเดียว” อยากจะแปะป้ายกลางหลังแล้วเขียนตัวโต ๆ ว่า “อย่า! มา! ยุ่ง!” ที่ดูอารมณ์ฉุนเฉียวน่ากลัวซะใครก็ไม่อยากเข้าใกล้ (และไม่อยากเข้าใกล้ใคร) นั่นก็เป็นเพราะภาวะหมดไฟส่งผลต่ออารมณ์เป็นอย่างมาก ทั้งทำให้อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย หมดเรี่ยวแรง ขาดสมาธิไม่สามารถจดจ่อกับอะไรได้นาน ๆ และยังอยากปลีกตัวไปอยู่เงียบ ๆ คนเดียวอีกด้วย

‍

แจกพิกัด! 4 สถานที่พักใจ เติมไฟให้วัยทำงาน🔥

เสาร์อาทิตย์ช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว กะพริบตาหนึ่งทีก็เหมือนวาร์ปจากวันศุกร์มาเป็นวันจันทร์ ยังไม่ทันทำอะไรวันหยุดก็จบลงไปซะแล้ว อย่าว่าแต่หาเวลาหนีไปพักใจต่างจังหวัดเลย แค่จะนอนเฉย ๆ ให้หายเหนื่อยก็ยังไม่ทัน แต่อย่าเพิ่งถอดใจไป เพราะวันนี้ BASE Playhouse ขอมาแจกพิกัด 4 สถานที่พักใจ ไม่ต้องไปไหนไกลก็เติมไฟได้ มีเวลาวันเดียวก็เอาอยู่ เตรียมจดเก็บไว้ในลิสต์กันได้เลย

เติมไฟด้วยพื้นที่สีเขียวฉบับ “สายรักธรรมชาติ”🌱

สถานที่แรกสำหรับสายรักธรรมชาติ คือ “สวนหลวง ร.9” สวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์ที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในกรุงเทพด้วยพื้นที่กว่า 500 ไร่ เป็นสถานที่ที่รวบรวมพันธุ์ไม้สวยงามจากทั่วทุกมุมของประเทศไทยมาไว้ในที่เดียว แถมยังมีพืชพันธุ์นานาชาติจากต่างประเทศอีกด้วย โดยมีค่าเข้าชมสวนเพียง 10 บาทเท่านั้น

นอกจากนี้ ภายในสวนหลวง ร.9 ยังมีทั้งสระน้ำและสวนหย่อมให้ทุกคนได้เดินเที่ยวรับลม ชื่นชมบรรยากาศดี สูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอด และถ่ายรูปสวย ๆ ลงโซเชียลมีเดียตามฉบับคนเก๋ แต่ถ้าใครเบื่อแล้วอยากทำกิจกรรมที่นี่ก็ตอบโจทย์เช่นกัน ไม่ว่าจะออกกำลังกาย วิ่งจ็อกกิง ปั่นจักรยาน หรือกิจกรรมน่ารัก ๆ อย่างปั่นเรือเป็ด ก็มีครบ สามารถทำกิจกรรมได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็น รอดูแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าเพื่อชมแสงสุดท้ายของวันก็ได้บรรยากาศดี ๆ ฮีลใจในวันหยุด

ในส่วนของการเดินทางไปสวนหลวง ร.9 ก็แสนจะง่าย เพียงแค่นั่ง MRT สายสีเหลืองไปลงสถานีสวนหลวง ร.9 แล้วต่อมอเตอร์ไซค์วินเพียง 10 บาท ก็ถึงแล้ว หรือใครอยากจะเดินไปก็เป็นการออกกำลังกายไปในตัวได้นะ

หาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ไปกับ “สายอาร์ต”🎨

สถานที่ที่สองสำหรับสายอาร์ตที่อยากเติมไฟเพื่อหาแรงบันดาลใจหรือไอเดียใหม่ ๆ ก็ต้องเป็น “River City Bangkok” แหล่งรวมงานศิลปะและนิทรรศการที่เหล่าสายอาร์ตไม่ควรพลาด ตั้งอยู่ในย่านเจริญกรุง ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา แถมการเดินทางก็สามารถมาได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการนั่ง MRT มาลงสถานีหัวลำโพงแล้วต่อรถแท็กซี่ นั่งเรือข้ามฟากมาจากไอคอนสยาม หรือถ้าอยากจะขับรถส่วนตัวมาก็มีที่จอดรถรองรับเช่นกัน

สำหรับงานศิลปะและนิทรรศการที่ River City Bangkok จะมีศิลปินหลาย ๆ ท่านมาจัดแสดงผลงานสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป เป็นสถานที่ที่สามารถแวะไปพักใจได้บ่อย ๆ แถมได้ Inspiration กลับมาด้วยนะ

‍

ปลุกอะดรีนาลีนให้พลุ่งพล่านไปกับการผจญภัยของ “สายแอดเวนเจอร์”🏄

สถานที่ที่สามสำหรับสายแอดเวนเจอร์ขอนำเสนอ “ศูนย์กีฬาทางน้ำบึงหนองบอน” ซึ่งเป็นแก้มลิงกักเก็บน้ำเพื่อช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมในฤดูฝนและเปิดสถานที่พักผ่อนหย่อนใจให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามาใช้บริการออกกำลังกาย ซึ่งศูนย์กีฬาทางน้ำบึงหนองบอนมีกีฬาทางน้ำให้เลือกเล่นหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรือใบ เรือคายัค วินด์เซิร์ฟ หรือซัพบอร์ด เหมาะสำหรับสายลุยที่อยากปลุกอะดรีนาลีนให้เดือดพลุ่งพล่านปลดปล่อยความเครียดให้หายวับไปกับตา

แต่ถ้าใครไม่ถนัดกีฬาทางน้ำก็ไม่เป็นไร เพราะกีฬาทางบกก็สามารถเล่นได้ ทั้งเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน เตะตะกร้อ เล่นบาสเกตบอล ตีปิงปอง หรือแม้กระทั่งนั่งปิกนิกรับลมเฉย ๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน

เติมพลังใจด้วยพลังกาย เดินปล่อยใจหาของอร่อยไปกับ “สายกิน”🍳

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ขออิ่มท้องไว้ก่อน เดินปล่อยใจจอย ๆ หาของอร่อยที่ “บรรทัดทอง” สถานที่สุดท้ายสำหรับสายกินที่กำลังเป็นกระแสสุดฮิตอยู่บนโลกอินเทอร์เน็ต โลเคชันก็ไปง่ายแสนสะดวก เพราะอยู่ไม่ไกลจากจุฬา-สามย่าน เพียงนั่ง MRT มาลงสถานีสามย่านแล้วนั่งรถต่อมาอีกนิดนึงก็ถึงหมุดหมายตามต้องการหรืออยากจะเดินกินลมชมวิวก็ไม่ไกลมากเช่นกัน

โดยถนนบรรทัดทองเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่แม้แต่นักท่องเที่ยวยังต้องมากเช็กอิน เพราะรวบรวมของอร่อยที่จะช่วยฮีลใจจากการทำงานที่เหนื่อยล้ามาทั้งอาทิตย์ ทั้งร้านเก่าแก่ที่เปิดมานานกว่าร้อยปีไปจนถึงร้านใหม่ ๆ ที่กำลังเป็นไวรัลบนโซเชียลมีเดีย ถ้าวันเสาร์อาทิตย์ยังไม่รู้จะไปเที่ยวไหนก็ลองแวะมาหาอะไรอร่อย ๆ กินกัน

การมุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพราะอยากให้ทุก ๆ ผลลัพธ์ของการทำงานออกมาสมบูรณ์แบบเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องไม่ละเลยสุขภาพจิตใจของตัวเองด้วย เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ใครที่กำลังทำงานหนักจนเกินไป ลองวางภาระทุกอย่างลงและหาเวลาออกไปใช้ชีวิตเต็มที่ นอกจากจะรักษาอาการหมดไฟได้แล้ว ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้ด้วยนะ

อ้างอิงจาก

ภาวะหมดไฟ (Burnout syndromes), MedPark Hospital

อย่าปล่อยให้ตัวเอง Burnout เพิ่มแรงใจด้วย '5 ที่เที่ยว' ช่วยเติมไฟให้คนวัยทำงาน, ESTOPOLIS

‍