Leadership

'ผู้นำ' คืออะไร? และต่างจาก 'หัวหน้า' อย่างไร? (Leaders vs Managers)

เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง 'ผู้นำ' กับ 'หัวหน้า' ใน 14 ประเด็นสำคัญ พร้อมตัวอย่างจากบริษัท Apple และ Microsoft สรุปว่า ผู้นำที่ดีต้องสามารถทำได้ทั้งสองบทบาท เพื่อเข้าใจวิธีการบริหารและสร้างแรงบันดาลใจในองค์กรยุคใหม่

September 11, 2024
·
0
mins
Maytwin Pitipornvivat (Mum+)
เมรวิน ปิติพรวิวัฒน์
'ผู้นำ' คืออะไร? และต่างจาก 'หัวหน้า' อย่างไร? (Leaders vs Managers)

'ผู้นำ' คืออะไร? และต่างจาก 'หัวหน้า' อย่างไร? (Leaders vs Managers)

ผู้นำ (Leader) และหัวหน้า (Manager) เป็นสองบทบาทที่มักจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสิ่งเดียวกัน แต่จริงๆแล้วมีความแตกต่างกันอย่างมาก ในบทความนี้ เราจะมาไขข้อสงสัยว่าผู้นำและหัวหน้าต่างกันอย่างไร และทำไมการเป็นผู้นำที่ดีจึงสำคัญในยุคปัจจุบัน

ผู้นำโฟกัสที่คน หัวหน้าโฟกัสที่กระบวนการ

จากบทความของ Harvard Business Review ได้ชี้ให้เห็นความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างผู้นำและหัวหน้า นั่นคือ ผู้นำจะให้ความสำคัญกับคนเป็นหลัก ในขณะที่หัวหน้าจะโฟกัสไปที่กระบวนการทำงาน

ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเกิดปัญหาในทีม ผู้นำจะพยายามทำความเข้าใจและรับฟังความคิดเห็นของลูกทีม เพื่อหาทางแก้ไขร่วมกัน ในขณะที่หัวหน้าอาจจะสนใจแค่ว่าต้องทำอย่างไรให้งานเสร็จตามกำหนด โดยไม่ได้ใส่ใจกับความรู้สึกของลูกทีมมากนัก

ผู้นำมีวิสัยทัศน์ หัวหน้าโฟกัสระยะสั้น

Forbes Coaches Council ได้สัมภาษณ์ผู้นำที่มีชื่อเสียง 15 คน และสรุปออกมาเป็น 14 คุณลักษณะที่ทำให้ผู้นำแตกต่างจากหัวหน้าทั่วไป หนึ่งในนั้นคือ ผู้นำมักจะมีวิสัยทัศน์ (Visionary) มองการณ์ไกล ในขณะที่หัวหน้ามักจะมุ่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้า (Tactical)

จากประสบการณ์ของผมเอง ผมเคยทำงานกับหัวหน้าที่คอยจ้องจับผิดและกดดันให้ทำงานให้เสร็จโดยเร็วที่สุด จนบางครั้งรู้สึกเครียดและไม่มีแรงบันดาลใจในการทำงาน แต่พอได้ร่วมงานกับผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ ชอบพูดคุยถึงเป้าหมายระยะยาว และให้กำลังใจทีมอยู่เสมอ ก็รู้สึกมีพลังและอยากทุ่มเทเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายนั้นด้วยกัน

ผู้นำสร้างแรงบันดาลใจ หัวหน้าจัดการควบคุม

อีกหนึ่งความแตกต่างที่เห็นได้ชัด คือผู้นำจะเน้นสร้างแรงบันดาลใจ (Inspire) ให้ทีมอยากทำตาม ในขณะที่หัวหน้ามักจะใช้การควบคุม (Micromanage) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ

ลองนึกภาพว่า ถ้าคุณมีหัวหน้าที่คอยจับผิดและสั่งการตลอดเวลา คุณจะรู้สึกอึดอัดและไม่กล้าคิดนอกกรอบ เพราะกลัวจะโดนต่อว่า แต่ในทางกลับกัน ถ้ามีผู้นำที่เชื่อมั่นในตัวคุณ ให้อิสระในการคิดและลงมือทำ คอยให้กำลังใจเวลาล้มเหลว คุณจะรู้สึกมีพลังและกล้าลองทำสิ่งใหม่ๆ มากขึ้น

ผู้นำฟังเก่ง หัวหน้าพูดเก่ง

"ผู้นำที่ดีต้องฟังเป็น" เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติสำคัญที่ถูกกล่าวถึงใน 14 ข้อแตกต่างระหว่างผู้นำกับหัวหน้า การฟังในที่นี้ไม่ใช่แค่การนั่งฟังเฉยๆ แต่เป็นการฟังอย่างตั้งใจ (Active Listening) เพื่อทำความเข้าใจความรู้สึกและมุมมองของอีกฝ่ายอย่างแท้จริง

ผมเคยเจอหัวหน้าที่ชอบพูดมากกว่าฟัง เวลาประชุมทีไรมักจะออกความเห็นของตัวเองฝ่ายเดียว โดยไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นได้แสดงความคิดเห็น จนหลายครั้งที่ไอเดียดีๆ ถูกละเลยไป เพราะหัวหน้าไม่ยอมฟัง ในทางตรงข้าม ผู้นำที่ฟังเก่งจะรู้จักใช้คำถามกระตุ้นให้ทุกคนกล้าแสดงความเห็น และนำมุมมองที่หลากหลายมาต่อยอดไอเดียให้ดียิ่งขึ้น

ผู้นำเน้นพัฒนาคน หัวหน้าเน้นสอนงาน

Leaders Grow People หรือผู้นำจะมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของลูกทีม ในขณะที่หัวหน้ามักจะสนใจแค่การสอนงาน (Train) เพื่อให้ลูกน้องทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความแตกต่างตรงนี้สำคัญมาก เพราะการพัฒนาคน (Develop) ไม่ใช่แค่การสอนให้เขาทำงานเป็น แต่เป็นการทำความเข้าใจถึงจุดแข็ง จุดอ่อน ความสนใจ และเป้าหมายส่วนตัวของแต่ละคน เพื่อช่วยให้เขาเติบโตได้ในแบบที่เป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่แค่ในเรื่องงาน แต่รวมถึงการใช้ชีวิตด้วย

ผู้นำกระจายอำนาจ ไม่ยึดติดตำแหน่ง

ข้อสุดท้ายที่น่าสนใจมาก คือผู้นำจะไม่ยึดติดกับอำนาจ แต่จะทำหน้าที่กระจายอำนาจ (Give the Powers Away) ให้ทีมได้แสดงศักยภาพของตัวเองออกมาอย่างเต็มที่ ในขณะที่หัวหน้ามักจะยึดติดกับตำแหน่ง (Position) และอำนาจการตัดสินใจ

การกระจายอำนาจของผู้นำ แสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจ (Trust) ในระดับสูงที่มีต่อลูกทีม และเป็นการบอกว่าทุกคนมีความสำคัญเท่าเทียมกัน ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้นำเพียงคนเดียว แต่เกิดจากพลังของทุกคนในทีม

องค์กรที่มีผู้นำเก่งๆ มักจะดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถให้อยากร่วมงานด้วย เพราะพวกเขาให้ความสำคัญกับผลกระทบ (Impact) ที่จะเกิดขึ้น ถ้าได้รับการ Empower ให้ใช้ศักยภาพได้เต็มที่ พวกเขาก็จะยอมทุ่มเทเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้กับองค์กร

สรุป

จากที่กล่าวมาทั้งหมด จะเห็นได้ว่าบทบาทของผู้นำและหัวหน้านั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยผู้นำจะให้ความสำคัญกับคนและการสร้างแรงบันดาลใจ ในขณะที่หัวหน้ามุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์และกระบวนการทำงาน

อย่างไรก็ตาม ผู้นำที่ดีในยุคนี้ ไม่ควรเลือกทำแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ต้องรู้จักปรับสไตล์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ บางครั้งต้องสวมหมวกผู้นำเพื่อดูแลและพัฒนาทีม แต่บางครั้งก็ต้องสวมหมวกหัวหน้าเพื่อบริหารจัดการให้งานสำเร็จตามเป้าหมาย

สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจความแตกต่าง และนำข้อดีของทั้งสองบทบาทมาผสมผสานใช้ให้ลงตัว เพื่อสร้างทีมและองค์กรให้แข็งแกร่ง พร้อมรับมือกับความท้าทายในโลกยุคใหม่