STAR Model คืออะไร? เทคนิคช่วยเสริมการสัมภาษณ์แบบ One-on-One ให้ได้ผล
ในการทำงานนั้นการ One-on-One ถือเป็นหนึ่งเครื่องมือที่ดีในการให้ Feedback และเก็บ Insight ของผู้ใต้บังคับบัญชา หรือทีมงานในแผนก โดยสามารถใช้ในการพูดคุยถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างทำงาน การขอความช่วยเหลือ หรือแม้แต่ Career path ที่คาดหวัง ซึ่งเป็นผลดีอย่างยิ่งต่อหัวหน้าทีมที่จะได้รับรู้ Feedback จากลูกทีม และสามารถแก้ไขปัญหาได้ทัน ก่อนที่จะเกิดผลเสียต่อการทำงานภายในทีม
STAR Model คืออะไร? เทคนิคช่วยเสริมการสัมภาษณ์แบบ One-on-One ให้ได้ผล
ในการทำงานนั้นการ One-on-One ถือเป็นหนึ่งเครื่องมือที่ดีในการให้ Feedback และเก็บ Insight ของผู้ใต้บังคับบัญชา หรือทีมงานในแผนก โดยสามารถใช้ในการพูดคุยถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างทำงาน การขอความช่วยเหลือ หรือแม้แต่ Career path ที่คาดหวัง ซึ่งเป็นผลดีอย่างยิ่งต่อหัวหน้าทีมที่จะได้รับรู้ Feedback จากลูกทีม และสามารถแก้ไขปัญหาได้ทัน ก่อนที่จะเกิดผลเสียต่อการทำงานภายในทีม
STAR Model คืออะไร
STAR Model คือ การสัมภาษณ์แบบ STAR เป็นเทคนิคที่มักใช้ในการสัมภาษณ์งาน โดย STAR เป็นรูปแบบหรือ Framework ที่ใช้ในการตอบคำถามสัมภาษณ์ประเภท Behavioral Question ซึ่งเป็นคำถามที่ถามถึงเหตุการณ์ในอดีตหรือประสบการณ์ต่าง ๆ ซึ่งเราสามารถประยุกต์ใช้หลักการนี้ เป็นโครงสร้างในการ One-on-One กับลูกทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
โครงสร้างของ STAR Model
- Situation (สถานการณ์) อธิบายสถานการณ์ในจุดที่เกิดพฤติกรรมนั้น ๆ
- Task (เป้าหมาย) อธิบายเกี่ยวกับการทำงานที่ลูกทีมได้ทำ
- Action (สิ่งที่ทำ) อธิบายเกี่ยวกับการกระทำที่ลูกทีมได้ทำ
- Alternative Action อธิบายถึงทางเลือกอื่นที่จะกระทำ หรือการกระทำที่อาจเกิดขึ้นได้
- Result (ผลลัพธ์) อธิบายเกี่ยวกับผลลัพธ์จากการกระทำนั้น
- Alternative Result ผลลัพธ์อื่นที่จะเกิดขึ้น หลังจากเกิดการเปลี่ยนแปลง
การประยุกต์โครงสร้างแบบ STAR ไปใช้กับกระบวนการ One-on-One
Situation: เริ่มต้นจากการให้ลูกทีมอธิบายสถานการณ์หรือความท้าทายที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน โดยให้ข้อมูลพื้นฐานที่เพียงพอเพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์
Task: สอบถามเจาะลึกถึงหน้าที่และความคาดหวังของลูกทีมในสถานการณ์นั้น ระบุถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างชัดเจน
Action: ให้ลูกทีมอธิบายสิ่งที่กระทำ เพื่อให้งานสำเร็จอย่างละเอียด สะท้อนถึงการแสดงทักษะและความสามารถที่ใช้ เทคนิคการแก้ปัญหา คุณสมบัติความเป็นผู้นำ หรือวิธีการอื่น ๆ ที่ใช้
Result: สรุปเรื่องราวโดยการพูดคุยถึงผลลัพธ์ของการกระทำ เน้นผลกระทบเชิงบวก เช่น ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น การประหยัดต้นทุน ความพึงพอใจของลูกค้าที่ดีขึ้น หรือความสำเร็จของโครงการ ออกมาเป็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้
Alternative Action: สอบถามถึงการกระทำอื่น ๆ ที่สามารถเป็นไปได้ ภายใต้สถานการณ์นั้น
Alternative Result: มอบหมายให้ลูกทีมประเมินผลลัพธ์อื่นที่อาจเกิดขึ้นได้ หากกระทำสิ่งนั้นแทน
ข้อดีของการประยุกต์ STAR Model เข้าไปในกระบวนการ One-on-One
- การพูดคุยมีโครงสร้างและความชัดเจน: การใช้โครงสร้างแบบ STAR Model จะทำให้เกิดระบบ Constructive Feedback ทำให้การสื่อสารระหว่างหัวหน้าและลูกทีมมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งสามารถเห็นถึงกระบวนการคิด และทักษะการสื่อสารจากลูกทีม
- มีหลักฐานชัดเจน : การพูดคุยที่มีโครงสร้างและข้อสรุปชัดเจน จะทำให้หัวหน้าทีมสามารถเก็บข้อมูลการทำงานของลูกทีม ออกมาเป็นหลักฐานรายบุคคล เพื่อนำไปใช้พัฒนาการทำงานของทีมได้ โดยความความชัดเจนนั้น จะเจาะจงไปที่การกระทำโดยไม่โทษไปที่ตัวบุคคล
- แสดงให้เห็นถึงความสามารถ: ด้วยโครงสร้างที่แสดงให้เห็นถึงกระบวนการคิด และความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ จะช่วยให้หัวหน้าทีมสามารถประเมินประสิทธิภาพในการแก้ปัญหา การปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ การทำงานเป็นทีม หรือภาวะผู้นำของลูกทีมได้
- เข้าใจกันมากขึ้น: การสื่อสารภายในทีมที่ชัดเจน จะสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างหัวหน้าและลูกทีมได้ ลูกทีมจะรู้สึกเชื่อใจ (Trust) หัวหน้าทีมมากขึ้น
สรุปคือ การใช้โครงสร้างแบบ STAR Model ในการ One-on-One เป็นการสะท้อนการทำงานที่ช่วยให้หัวหน้าทีมสามารถประเมินลูกทีม และมีส่วนให้หัวหน้าทีมเข้าใจและตอบสนองความต้องการของลูกทีมได้ตรงจุดมากขึ้น เกิดเป็นการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ (Constructive Feedback) ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นโอกาสในการชี้แนะแนวทางให้กับลูกทีม ให้พัฒนาการทำงานของตัวเองได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
หากองค์กรใดต้องการเจาะลึกการใช้งาน Star Model ในการ Feedback หรือ 1 on 1 กับลูกทีม รวมไปถึงเทคนิคการนำทีม บริหารทีมด้วยใจสำหรับหัวหน้าทุกระดับ ทาง BASE Playhouse มีหลักสูตรยกระดับหัวหน้าทีมมากมาย ปรึกษาเราได้ฟรี! โทร 094-191-4626 หรือกรอกข้อมูลเพื่อติดต่อกลับง่าย ๆ ที่นี่
หลักสูตรแนะนำ
People Manager in Action
ทักษะการบริหารคนเป็นหัวใจของการเป็นผู้นำที่ดี หลักสูตรนี้จะเน้นไปที่การพัฒนาภาวะผู้นำและอิทธิพลทางสังคม พร้อมฝึกทักษะที่ช่วยให้ผู้จัดการสามารถสร้างแรงจูงใจให้ทีมได้ การที่องค์กรจะขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากคนในทีม ”ผู้นำทีม” จึงต้องมีทักษะการบริหารงาน (Management Skills) และทักษะ การจัดการทรัพยากรคน (People Skills) เพื่อสร้างทีมที่แข็งแรง และผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
หัวหน้าที่บริหารคนเก่ง ส่งผลดีต่อทีมอย่างไร?
- ทีมพร้อมพุ่งชนทุกความท้าทายทีมไว้ใจกันและกัน
- สร้างยูนิตการทำงานที่แข็งแกร่งทีมทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ทุกคนรู้จุดแข็งของตัวเอง และทำงานได้อย่างเต็มความสามารถ
- บรรยากาศในการทำงานน่ารื่นรมย์ คนในทีมแฮปปี้
คอร์สนี้เหมาะกับ
Senior หรือ Manager มือใหม่ที่ต้องการบูสต์ความสามารถในการบริหารลูกน้องและทีมงาน ควบคู่ไปกับการบริหารผลงานของทีมให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด