สอนฟรี! วิธีใช้กระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) กับงานประจำวัน

ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การนำกระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) มาใช้ในงานประจำวันสามารถช่วยเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์และประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างมาก บทความนี้จะนำเสนอวิธีการนำ Design Thinking ไปปรับใช้ในงานประจำวันของคุณ​

ทำความเข้าใจ Design Thinking

Design Thinking คือกระบวนการคิดเชิงสร้างสรรค์ที่มุ่งเน้นการทำความเข้าใจความต้องการของผู้ใช้ และพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตอบสนองความต้องการเหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพ กระบวนการนี้ถูกนำมาใช้ในองค์กรชั้นนำทั่วโลก เช่น Google, Apple และ Airbnb เพื่อสร้างนวัตกรรมและแก้ปัญหาธุรกิจอย่างเป็นระบบจาก ​BASE Playhouse

2. ขั้นตอนของกระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking Process)

กระบวนการคิดเชิงออกแบบประกอบด้วย 5 ขั้นตอนหลัก ได้แก่:​

• Empathize (ทำความเข้าใจผู้ใช้): ทำความเข้าใจความต้องการและปัญหาของผู้ใช้ผ่านการสัมภาษณ์หรือการสังเกต​
  
  
• Define (กำหนดปัญหา): สรุปและกำหนดปัญหาที่ต้องการแก้ไขอย่างชัดเจน​
  
  
• Ideate (ระดมความคิด): ระดมความคิดเพื่อหาวิธีแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์และหลากหลาย​
  
  
• Prototype (สร้างต้นแบบ): สร้างต้นแบบของแนวคิดเพื่อทดลองและรับความคิดเห็นจากผู้ใช้​
  
  
• Test (ทดสอบ): ทดสอบต้นแบบกับผู้ใช้จริงและปรับปรุงตามความคิดเห็นที่ได้รับ​
  
  

3. การนำ Design Thinking ไปใช้ในงานประจำวัน

• ฝึกการทำความเข้าใจผู้ใช้ (Empathize): ในการทำงานประจำวัน ควรฝึกการฟังและสังเกตความต้องการของเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า หรือลูกค้า เพื่อเข้าใจปัญหาและความต้องการที่แท้จริง​
  
  
• กำหนดปัญหาอย่างชัดเจน (Define): เมื่อเข้าใจปัญหาแล้ว ควรกำหนดปัญหาอย่างชัดเจนและเฉพาะเจาะจง เพื่อให้สามารถหาแนวทางแก้ไขได้ตรงจุด​HR Note
  
  
• ระดมความคิด (Ideate): ใช้เทคนิคการระดมความคิด เช่น Brainstorming เพื่อหาวิธีแก้ปัญหาที่หลากหลายและสร้างสรรค์​
  
  
• สร้างต้นแบบ (Prototype): ทดลองสร้างต้นแบบหรือแนวทางแก้ปัญหาในรูปแบบที่สามารถทดสอบได้จริง​
  
  
• ทดสอบและปรับปรุง (Test): นำต้นแบบไปทดสอบกับผู้ใช้หรือผู้เกี่ยวข้อง รับความคิดเห็นและปรับปรุงตามความเหมาะสม​
  
  

4. ประโยชน์ของการนำ Design Thinking ไปใช้ในงานประจำวัน

• เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์: การใช้ Design Thinking ช่วยให้พนักงานคิดนอกกรอบและหาวิธีแก้ปัญหาใหม่ๆ​
  
  
• เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน: ด้วยการเข้าใจปัญหาและหาวิธีแก้ไขที่ตรงจุด ทำให้งานสำเร็จลุล่วงได้รวดเร็วขึ้น​
  
  
• สร้างความร่วมมือในทีม: การระดมความคิดร่วมกันช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจในทีม​
  
  

5. สรุป

การนำกระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) มาใช้ในงานประจำวันไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์และประสิทธิภาพในการทำงาน แต่ยังช่วยสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล การฝึกฝนและนำไปใช้จริงจะทำให้คุณเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยั่งยืน

หลักสูตรแนะนำ

Design Thinking for Creating Innovation

ในยุคที่เทคโนโลยีและความเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นเรื่อย ๆ การนำทักษะการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) มาประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจ และใช้ในการแก้ไขปัญหาและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างให้องค์กรสามารถปรับตัวได้อย่างคล่องตัว ผ่านการคิด และออกแบบนวัตกรรมใหม่ ๆ

คอร์สนี้เหมาะกับ

'Design Thinking for Creating Innovation' เหมาะสำหรับบุคลากรในระดับผู้จัดการ และผู้บริหารที่ต้องการพัฒนาทักษะความคิดเชิงออกแบบอย่างสร้างสรรค์

สิ่งที่ผู้เรียนจะได้รับ

• ได้รับมุมมองที่หลากหลาย - เริ่มจากความเข้าใจกระบวนการคิด ทำให้เกิดขึ้นได้จริง ประยุกต์ใช้เป็น เเละนำไปใช้กับทีมทำงานได้ เข้าใจลักษณะของแต่ละขั้นตอนที่แตกต่างกัน ที่จะทำให้ผู้เรียนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในบริบทขององค์กรหรือของการทำงานที่แตกต่างกันได้
• ได้รับทักษะขั้นสูงของกระบวนการคิดเชิงออกแบบ - เพื่อทำให้ผู้เรียนมีทางเลือกในการหยิบทักษะแต่ละตัวไปใช้ และทำให้ผู้เรียนสามารถออกแบบวิธีการแก้ปัญหาได้ เมื่อเจอเคสในการสร้างนวัตกรรมจริงในองค์กร ที่ละเอียดและซับซ้อน พร้อมทั้งสามารถนำทักษะขั้นสูงไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• มองภาพรวมที่ใหญ่กว่า - วิธีการการแก้ปัญหาที่ดี นอกจากจะต้องตอบโจทย์และแก้ปัญหาให้กับมนุษย์ได้ ยังต้องสามารถต่อยอดเพื่อทำให้มันสามารถสร้างได้จริง และสามารถยั่งยืน (Sustain) ในมุมของธุรกิจได้ เพื่อทำให้ไอเดียหรือกระบวนการคิดที่ได้จากกระบวนการนี้ สามารถต่อยอดไปเป็นนวัตกรรมจริงในองค์กร

รายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติม > อ่านที่นี่

ติดต่อปรึกษา BASE Playhouse ฟรี! โทร 094-191-4626 หรือกรอกข้อมูลเพื่อติดต่อกลับ ที่นี่

‍